ไม่พบผลการค้นหา
'เสรี' อ้าง รธน. เจตนารมณ์เปิดทางตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้ แค่ใช้ 250 เสียง ส.ว.ช่วยหนุน ชี้โหวตกฎหมายในสภาล่างไม่ทันชงวุฒิสภาเห็นชอบได้ ขณะที่ 'อลงกรณ์' โต้ทันทีแนวคิดพิลึก ซัดหวังน้ำบ่อหน้าให้งูเห่าช่วย

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์เฟซบุ๊กกรณีรัฐบาลที่มี ส.ส.เสียงข้างน้อยสนับสนุน จะอยู่ได้หรือไม่ โดยระบุว่า รัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 ในปัจจุบัน ได้บัญญัติให้การแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี นั้นใช้เสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภา คือ ส.ส.และส.ว.รวมกัน คือต้องให้ได้เสียงไม่น้อยกว่า 376 เสียง ซึ่งในเสียงของ ส.ส. อาจไม่ถึงจำนวน 250 เสียงก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เท่ากับเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎร การที่รัฐบาลมีเสียงสนับสนุนไม่ถึงกึ่งหนึ่งนั้น ก็มิได้หมายความว่าจะทำให้รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ ซึ่งหากรัฐบาลไม่ทุจริตคอร์รัปชัน ไม่โกงกิน ทำงานอย่างเต็มที่มีประสิทธิภาพ ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องใช้เสียง ส.ส.เกินกว่ากึ่งหนึ่งมาคอยปกป้องคุ้มครอง

ดังนั้น หากใช้เสียง ส.ส. ในสภาผู้แทนราษฎรในการโหวตแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ก็จะใช้เสียงเพียง 126 เสียงขึ้นไปเมื่อรวมเสียงของ ส.ว. จำนวน 250 เสียง รวมแล้วไม่น้อยกว่า 376 เสียง ก็สามารถโหวดเลือกนายกรัฐมนตรีได้ เท่ากับว่า การจัดตั้งรัฐบาลนี้ มีเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรสนับสนุน ก็ยังสามารถตั้งรัฐบาลได้ อันเป็นเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่หากรัฐบาลมีเสียงในสภาจำนวนน้อยก็ยังสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ 

นายเสรี ระบุว่า หากกฎหมายเกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม และร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 143 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า สภาผู้แทนราษฎรต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 105 วัน นับแต่วันที่ร่าง พ.ร.บ..ดังกล่าวมาถึงสภาผู้แทนราษฎร ถ้าสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาไม่แล้วเสร็จภายในกำหนดให้ถือว่าสภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.นั้นและให้เสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวต่อวุฒิสภาเพื่อพิจารณาภายใน 20 วัน ซึ่งหากวุฒิสภาเห็นชอบ ให้ดำเนินการตามมาตรา 81 ต่อไป ซึ่งว่าไปแล้ว ในเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวกับการงบประมาณทั้งสามฉบับข้างต้น ก็มิได้เป็นอุปสรรคที่จะทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้เช่นกัน 

นอกจากนี้ ในเรื่องของการขอเปิดอภิภายไม่ไว้วางใจนั้น หากรัฐบาลมีเสียงข้างน้อยของ ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร ก็จะทำให้รัฐบาลถูกตรวจสอบที่เข้มข้น รัฐบาลหรือรัฐมนตรีจะต้องไม่ทุจริตคอร์รัปชัน ไม่แสวงหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้อง รวมทั้ง ต้องปฏิบัติงานทำหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินหรือบริหารประเทศอย่างเต็มที่ อันจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนโดยรวม ซึ่งดีกว่าที่มีเสียง ส.ส. ข้างมากที่คอยปกป้องรัฐมนตรีที่กระทำการทุจริต หรือกระทำความผิดเหมือนที่ผ่านๆมา หากนายกรัฐมนตรีไม่ทุจริต ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย

หาก ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรที่มีจำนวนมากกว่ากลั่นแกล้งมีมติไว้วางใจนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นก็จะต้องมีกระบวนการให้ได้นายกรัฐมนตรีใหม่เข้ามาทำหน้าที่ ซึ่งหมายความว่า นายกรัฐมนตรีคนเดิมที่ถูกสภาผู้แทนราษฎรลงมติไม่ไว้วางใจโดยถูกกลั่นแกล้งหรือไม่ได้ทำอะไรผิดดังกล่าว เมื่อนายกฯคนนั้น คงเป็นบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ในบัญชีของพรรคการเมือง นายกคนเดิมที่ถูกกลั่นแกล้งนั้นก็มีสิทธิได้รับการพิจารณาจากสมาชิกรัฐสภาให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีก

'อลงกรณ์' โต้ เสรี อ้างพิลึก ย้ำ รธน.ไม่มีเจตนารมณ์ให้ต้ังรัฐบาลเสียงข้างน้อย

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตอบโต้แนวคิดของนายเสรี ว่า เหตุผลข้ออ้างพิลึกของ ส.ว.ท่านหนึ่งที่บอกว่ารัฐบาลที่มีเสียงข้างน้อยก็มีเสถียรภาพโดยอ้างเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ บอกได้คำเดียวว่าเป็นเหตุผลข้ออ้างพิลึกพิสดาร ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ความจริงรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้รัฐสภาเลือกนายกรัฐมนตรีได้ด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา คือ 376 เสียง และต้องการให้นายกรัฐมนตรีมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฏร เพื่อความมีเสถียรภาพของรัฐบาล มิใช่ให้จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยตั้งแต่เริ่มตั้งรัฐบาล เพราะนอกจากรัฐบาลจะไม่มีเสถียรภาพแล้วจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศและเศรษฐกิจโดยตรง 

"การเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรนั้นไม่มีเสถียรภาพเพราะหากไม่สามารถผ่านกฎหมายทางเงินสำคัญๆรวมทั้งพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีหรือญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ต้องลาออกหรือยุบสภา นี่คือหลักถ่วงดุลและตรวจสอบของระบบรัฐสภาที่วางอยู่บนฐานเสียงข้างมากข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรวุฒิสภาช่วยอะไรไม่ได้หรอกครับ หรือจะหวังน้ำบ่อหน้าไปหางูเห่ามาเสริมก็ผิดวิถีทางการปฏิรูปการเมือง" นายอลงกรณ์ ระบุ

นายอลงกรณ์ ย้ำว่า การเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยอาจเกิดขึ้นได้ในภายหลังเมื่อบริหารประเทศไประยะหนึ่งแล้วมีพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวก็เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยซึ่งนายกรัฐมนตรีก็เลือกมี่จะลาออกหรือยุบสภา แต่ไม่ใช่คิดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยตั้งแต่วันแรก เมื่อจะสานต่อการปฏิรูปประเทศหลังเลือกตั้งก็ควรเริ่มต้นด้วยเหต���ผลและหลักการที่ดีไม่ใช่หรือ