วันนี้ (6 ส.ค.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้นัดหารือกับผู้ค้าเป็นครั้งที่ 2 ภายหลังจากการพูดคุยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ ซึ่ง กทม. ขอให้ผู้ค้าชะลอการขายไปก่อน 5 วัน และหารือกันอีกครั้งในวันนี้ โดยภายหลังการหารือนานกว่า 2 ชั่วโมง นายสกลธี ภัทธิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ค้าเตรียมยื่นหนังสือต่อ พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการ กทม. ขออนุโลมตั้งแผงค้าบนทางเท้าไปก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ กทม.ได้ทำหนังสือไปยังผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ออกข้อบังคับการจราจรใหม่ เนื่องจากช่วงเย็นถนนข้าวสารจะมีนักท่องเที่ยวเดินอย่างหนาแน่น เสมือนเป็นการปิดการจราจรโดยสภาพอยู่แล้ว จึงอยากทำให้ถูกต้อง แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีข้อสรุปจากทางตำรวจนครบาล
ทั้งนี้ ข้อสรุปเรื่องการจัดระเบียบยังไม่ออกมาเป็นรูปธรรม กทม. เตรียมเชิญกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงพาณิชย์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และตำรวจนครบาล มาหารือกันภายในสัปดาห์นี้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาของผู้ค้าที่ต้องชะลอการขายตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา กทม.จึงอนุโลมให้ผู้ค้ากลับมาตั้งแผงขายบนทางเท้าได้เหมือนเดิม ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป แต่มีเงื่อนไขคือ สามารถขายได้ในเวลา 18.00 น.- 24.00 น. ไม่สามารถขายในเวลากลางวันได้ และผู้ค้าต้องลดขนาดแผงค้าเหลือ 1.5 เมตร เบื้องต้นอนุโลมเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อรอคำตอบจากการหารืออีกครั้ง ส่วนสถานบันเทิงและร้านนวดต่างๆ จะไม่ให้ตั้งโต๊ะหรือเก้าอี้ล้ำทางเท้าออกมา เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตพระนครตรวจสอบว่าผู้ตั้งแผงเป็นผู้ค้าตัวจริงหรือไม่ เพื่อไม่ให้มีการซ้อนแผงค้า และหากดำเนินการในพื้นที่ถนนข้าวสารเสร็จเรียบร้อย จะขยายออกไปยังบริเวณโดยรอบข้าวสารด้วย นายสกลธี ย้ำว่า แม้ถนนข้าวสาร จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือแลนด์มาร์กชื่อดังที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ แต่ผู้ค้าที่ขายอยู่บนทางเท้าปัจจุบัน ได้ขายอย่างผิดกฎหมาย จำเป็นต้องทำให้ถูกต้อง
อ่านเพิ่มเติม