ร้านค้านับ 100 แห่ง ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ต้องปิดการค้าขายชั่วคราว หลังระดับน้ำแม่น้ำปัตตานี เอ่อท่วมถนน จะบังติกอ ถนนนาเกลือ ถนนกะลาพอ และ ถนนหนองจิก ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ถูกมวลน้ำล้อมรอบ สูงกว่า 50 เซนติเมตร ทำให้ต้องปิดเส้นทางชั่วคราว เพราะรถไม่สามารถผ่านไปได้
นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เรียกประชุมด่วน นายอำเภอ โรงพัก ทั้ง 12 อำเภอ เพื่อวางมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัย หลังน้ำเหนือจากจังหวัดยะลา ยังคงไหลมาสมทบแม่น้ำปัตตานี ล่าสุด มียอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมแล้ว 5 ราย โรงเรียนปิดการเรียนการสอน จำนวน 58 โรง
ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายบุรี ที่อำเภอรามัน จังหวัดยะลา มีระดับที่สูงขึ้นเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ ติดแม่น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร โดยเฉพาะในตำบลอาซ่อง ตำบลท่าธง ตำบลกายูบอเกาะ ยังวิกฤตอยู่ เนื่องจากมวลน้ำ จากอำเภอศรีสาคร จังหวัดนาราธิวาส ไหลเข้าสมทบ และยังมีฝนตกในพื้นที่
ส่วนที่จังหวัดนราธิวาส ระดับน้ำในแม่น้ำ 3 สายหลัก โดยเฉพาะแม่น้ำสุไหงโก-ลก ยังเอ่อท่วมพื้นที่ราบลุ่ม ในอำเภอแว้ง อำเภอสุไหงปาดี อำเภอสุไหงโก-ลก และ อำเภอตากใบ ส่วนแม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำบางนรา ยังเพิ่มสูงหลังปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ถนนศูนย์ราชการ ในตัวเมืองยังถูกน้ำท่วมขัง เจ้าหน้าที่ต้องนำรถมาจอดไว้บนถนน
ด้านจังหวัดสงขลา ยังน่าห่วงทั้งชายฝั่งทะเลสาบสงขลาและพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อย หลังมียอดผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน ล่าสุด หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เพราะถนนขาด โดยมีการเร่งอพยพชาวบ้านมาอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ว่าการอำเภอสะบ้าย้อยเพื่อความปลอดภัยแล้ว
ขณะที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานไปยัง 10 จังหวัดภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนักถึงหนักมาก วันที่ 1-3 ธันวาคม โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งอาจทำให้เกิดดินโคลนถล่ม ประกอบด้วย ลุ่มน้ำตาปี ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้แก่ นครศรีธรรมราช ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันตก ได้แก่ กระบี่ ตรัง สตูล ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ได้แก่ พัทลุง สงขลา และลุ่มน้ำปัตตานี ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
รายงานโดย : โชติพงษ์ วงศ์พนารักษ์
