ไม่พบผลการค้นหา
‘อนุทิน’ ยินดี พปชร. ส่งตัวแทนยินดีวันเกิดพรรค มองยังไม่ใช่ชัยชนะหลังศาลแพ่งออกคำสั่ง ‘ชูวิทย์’ ยุติการกล่าวร้ายโจมตี ไม่สนถูกขู่เคลื่อนไหวใหญ่ ซัดไม่มีเวลาดูยูทูบเอาเวลาไปช่วยผู้สมัครหาเสียง ปัดวิจารณ์นโยบายเพื่อไทยเติมเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ย้ำนโยบายภูมิใจไทยเห็นหัวประชาชน ชี้ประชาชนไม่ใช่ยาจก

วันที่ 6 เม.ย. ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมงานทำบุญเนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปีพรรคภูมิใจไทย และเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 400 เขต และบัญชีรายชื่อทั่วประเทศ ว่า ขอบคุณที่พรรคพลังประชารัฐส่งตัวแทนคือ สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.กระทรวงการคลัง และชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส มาร่วมยินดี และอวยพรวันคล้ายวันเกิดพรรคภูมิใจไทย ส่วนหลังเลือกตั้งจะได้กลับมาร่วมรัฐบาลเดียวกันหรือไม่นั้น มองว่า ที่ผ่านพรรคภูมิใจไทยกับพรรคพลังประชารัฐก็ทำงานร่วมกัน อย่างนายชัยวุฒิ ถือเป็นคนที่มีไฟในการทำงานเหมือนกับตนเอง แต่ที่มาวันนี้ก็มาในนามตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ อาจสื่อได้ว่า ทั้งสองพรรคมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ร่วมรัฐบาลกันมา 4 ปีแล้ว ไม่มีความขัดแย้งใดๆ มองหลังจากนี้หากจะเป็นรัฐบาลอยากให้เป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ 

อนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลแพ่งมีคำสั่งให้ ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์’ ยุติการกล่าวร้ายโจมตีพรรคภูมิใจไทย และนโยบายกัญชา ในระหว่างช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่า หลังจากที่พรรคภูมิใจไทยไปสมัครรับเลือกตั้ง และได้หมายเลขพรรค และผู้สมัครทุกคนได้หมายเลขสำหรับลงเลือกตั้งในแต่ละเขต ความวิตกกังวลก็หายไป ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เป็นสิทธิของใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นประชาชน หน่วยงาน องค์กร ก็ต้องใช้สิทธิตามกฎหมาย รวมถึงเรื่องไหนที่มีวิพากษ์วิจารณ์แล้วสร้างความเสียหาย และผลกระทบ หรือด้อยค่าให้ประชาชน สร้างความเข้าใจที่ผิดให้พรรคภูมิใจไทย เราก็ไม่สามารถไปห้ามให้ใครเขาพูดได้ คงต้องอาศัยบารมีของกฎหมาย และศาลที่ให้ความคุ้มครองพรรคภูมิใจไทย 

ส่วนในช่วง 37 วันก่อนจะมีการเลือกตั้ง กฎหมายจะสามารถควบคุม ชูวิทย์ อยู่หรือไม่นั้น อนุทิน กล่าวว่า ใครอยากจะทำอะไรก็ทำ แต่ขอให้ทุกคนทำตามกฎหมาย เพราะศาลก็บอกแล้วว่า การออกคำสั่งเมื่อวานไม่ได้คุ้มครองการห้ามพูดไม่ดีต่อพรรคภูมิใจไทย เพราะมีกฎหมายของ กกต. อยู่แล้วว่าห้ามให้บุคคลใดด้อยค่า หรือชักจูงให้ประชาชนเข้าใจผิดต่อพรรคการเมือง โดยเฉพาะผู้ใดที่ไม่ได้หมายถึงผู้สมัคร และใครก็ได้จะไปด้อยค่ากับคนหรือพูดไม่ดีทำให้คนเข้าใจผิด มันก็เข้าข่ายทำผิดกฎหมายหมิ่นประมาท แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้พรรคภูมิใจไทยเราก้าวข้ามเรื่องเหล่านี้ไปหมดแล้ว ลงสมัคร และได้เบอร์แล้ว มั่นใจในนโยบายของพรรคภูมิใจไทย เห็นจากผลสำรวจความนิยมต่างๆ คะแนนนิยมของพรรคภูมิใจไทยแข็งแรงขึ้น 

ส่วนที่ ชูวิทย์บอกว่า พรรคภูมิใจไทยเอากฎหมายมาปิดหู ปิดตา ปิดปากประชาชน รวมถึงล่าสุดที่โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า วันศุกร์นี้จะเคลื่อนไหวครั้งสำคัญต่อต้านนโยบายกัญชา อนุทิน กล่าวว่า “ตอนนี้ผมลงพื้นที่หาเสียง ในพรรคภูมิใจไทยทุกคนลงพื้นที่หาเสียง ไม่มีเวลาดูยูทูบ” 

รวมถึงไม่ได้มองว่าคำสั่งศาลครั้งนี้เป็นชัยชนะของพรรคภูมิใจไทย แต่ถือเป็นการปกป้องพรรคภูมิใจไทยกับบุคคลที่มาว่ากล่าวให้ร้าย ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด แต่หากผู้ใดไม่ทำตามคำสั่งศาลก็ถือว่าละเมิดอำนาจศาล และอำนาจกฎหมาย และต้องถูกดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม 

ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า จะไปเปิดเวทีในจังหวัดที่พรรคภูมิใจไทยแข็งแกร่งนั้น อนุทิน กล่าวว่า ถือเป็นสิทธิของทุกพรรค เพราะพรรคภูมิใจไทยก็ไปหาเสียงทุกจังหวัด และไม่เคยมีจังหวัดไหนไม่ต้อนรับ หากพรรคการเมืองไหนจะมาหาเสียง พรรคภูมิใจไทยมองว่าเป็นการให้ตัวเลือกต่อประชาชนว่าจะเลือกพรรคไหน 

อนุทิน ยังกล่าวถึงนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลเติมเงิน 10,000 บาทให้คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปของพรรคเพื่อไทยว่า ไม่ขอไปวิพากษ์วิจารณ์นโยบายพรรคอื่น แต่ยังมั่นใจว่านโยบายของพรรคภูมิใจไทยมีประโยชน์กับประชาชน และต้องปฏิบัติได้จริง เพราะประชาชนไม่ใช่ยาจก เป็นคนที่มีพระคุณต่อพรรคการเมืองทุกพรรค เราจึงต้องทำให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทำให้มีโอกาสในการทำมาหากิน ไม่ใช่ไปแบมือขอ การจะเอาอะไรไปให้เขาถือเป็นการไม่เห็นหัวประชาชน แต่ต้องทำให้ประชาชนคิดว่า นี่คือสิทธิที่เขาควรจะพึงได้