ไม่พบผลการค้นหา
“พานทองแท้” นำผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย ไหว้ศาลหลักเมืองขอนแก่น เพื่อความเป็นสิริมงคล ขณะที่ “ชัชชาติ” นำผู้สมัคร จ.นครราชสีมา ลงสมัคร มั่นใจเพื่อไทยกวด ส.ส. จ.นครราชสีมาได้ทั้ง 14 ที่นั่ง เชื่อมั่นประชาชนตอบรับดี เพราะผลงานรัฐบาลเพื่อไทยเป็นที่ประจักษ์

ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอนแก่น นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตชายของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำผู้สมัครลงรับการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 10 เขตเลือกตั้งของ จ.ขอนแก่น ไหว้ขอพรศาลเจ้าพ่อหลักเมืองและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยรอบพื้นที่ศาลหลักเมืองขอนแก่นเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนนำพาผู้สมัครทุกคนเดินทางมาลงทะเบียนและลงเวลาการสมัครรับการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่ง กกต.ขอนแก่น ได้กำหนดเลือก หอประชุม อบจ.ขอนแก่น เป็นสถานที่ของการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ในช่วงระหว่างวันที่ 4-8 ก.พ.

ขณะที่ นายเอกราช ช่างเหลา แกนนำพรรคพลังประชารัฐภาคอีสาน นำผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 10 เขตเลือกตั้งของ จ.ขอนแก่น กราบขอพรศาลเจ้าพ่อหลักเมืองและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอพรเอาฤกษ์เอาชัยก่อนนำผู้สมัครทั้ง 10 คนขึ้นรถตุ๊กๆ และเคลื่อนขบวนมายังสถานที่รับสมัครเลือกตั้ง ท่ามกลางความสนใจจากประชาชนและผู้ที่ให้การสนับสนุนที่มาให้กำลังใจจนแน่น 2 ฟากฝั่งถนนและบริเวณโดยรอบสถานที่ขอการรับสมัครเป็นจำนวนมาก

ด้านนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา นำผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคชาติไทยพัฒนาทั้ง 10 เขตเลือกตั้ง กราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพบปะประชาชนภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ก่อนพากันมารายงานตัวและลงทะเบียนเพื่อลงสมัครรับการเลือกตั้ง ที่ หอประชุม อบจ.ขอนแก่น เช่นกัน นอกจากนี้ยังคงมีผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่ ,พรรคพลังท้องถิ่นไทย,พรรคประชาชาติ,พรรคเพื่อไทย,พรรคภูมิใจไทย,พรรคชาติพัฒนา,พรรคพลังธรรมใหม่,พรรคประชาธิปัตย์,พรรคเพื่อนไทย รวมไปถึงจากพรรคการเมืองต่างๆทยอยกันมาลงทะเบียนและรายงานตัวเพื่อรับทราบถึงกฎระเบียบและขั้นตอนการดำเนินงานของการสมัครรับการเลือกตั้งตามที่ กกต.กำหนด

ทั้งนี้บรรยากาศโดยทั่วไปที่หอประชุม อบจ.ขอนแก่น สถานที่ที่ กกต.ใช้เป็นสถานที่ของการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ระหว่างวันที่ 4-8 ก.พ. นายอภินันท์ จันอุปละ ผอ.กกต.ขอนแก่น ได้ทำการประกาศแจ้งเตือนถึงกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆเพื่อให้ผู้สมัครได้เข้าใจและรับทราบถึงลำดับขั้นตอนต่างๆ โดยเฉพาะกับการห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาภายในบริเวณพื้นที่ของการรับสมัครโดยเด็ดขาด โดยให้ผู้สมัครทุกนคั้นหลังจากที่ได้มีการายงานตัวและลงทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่แล้ว ให้อยู่ในจุดพักรอ บริเวณด้านหน้า เพื่อรอให้ถึงเวลา 08.30 น.จึงจะเปิดประตูให้ผู้สมัครที่ทำการลงทะเบียนไว้แล้วนั้นเข้ายื่นเอกสารและดำเนินการตามขั้นตอนของการรับสมัคร โดยให้ผู้ที่ให้การสนับสนุนและผู้สังเกตุการณ์นั้นอยู่บริเวณด้านนอกห้องประชุม ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายสืบสวนสอบสวนของ กกต. เพื่อให้การดำเนินงานตามขั้นตอนต่างๆตามที่ กกต.กำหนดไว้นั้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นายอภินันท์ จันอุปละ ผอ.กกต.ขอนแก่น กล่าวว่า ยังคงเน้นย้ำแนวทางการปฎิบัติที่ทุกคนจะต้องปฎิบัติตามกฎหมายและระเบียบของ กกต.อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ทุกขั้นตอนจะมี ผอ.ประจำเขตเลือกตั้ง ทั้ง 10 เขตเลือกตั้ง นั้นคอยกำกับควบคุมและจัดการการรับสมัครเลือกตั้งให้เป็นไปตามขั้นตอนตามที่ กกต.กำหนด โดยเฉพาะกับ มาตรา 73 ในเรื่อของมหรสพที่ผ้สมัครทุกคนนั้นต้องปฎิบัติอย่างเคร่งครัด เพราะหากกระทำความผิดก็จะถูกดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายทันที

“เชื่อได้ว่าผู้สมัครทุกคนนั้นมีการศึกษาข้อมูลและรายละเอียดข้อระเบียบบังคับและข้อกฎหมายต่างๆในการเลือกตั้งในครั้งนี้ครบถ้วนทั้งหมดแล้ว แต่เพื่อให้รัดกุมและให้การดำเนินการในด้านต่างๆที่เป็นไปตามขั้นตอน กกต.ทุกฝ่ายจึงต้องแนะนำชี้แจงในรายละเอียด โดยเฉพาะกับผู้สมัครหน้าใหม่ที่ไม่เคยลงสมัครรับการเลือกตั้ง ที่อาจจะเตรียมเอกสารไม่ครบ หรือการดำเนินการตามขั้นตอนอาจจ่าช้าหรือไม่ครบถ้วน ดังนั้นเมื่อผู้สมัคร ทุกคนได้ทำการลงทะเบียน ที่ กกต. ได้กำหนดไว้เป็น 2 ส่วนคือส่วนแรกคือเขตเลือกตั้งที่ 1-5 และ ส่วนที่ 2 คือเขตเลือกตั้งที่ 6-10 ซึ่งเมื่อลงทะเบียนและรายงานตัวแล้ว เจ้าหน้าที่ กกต. จะชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนและในเวลา 08.30 น. ซึ่งถึงเวลาของการเปิดรับสมัคร กกต.ก็จะเชิญผู้สมัครทุกคนที่ทำการลงทะเบียนไวนั้นเข้าสู่ขั้นตอนของการสมัครจนแล้วเสร็จทุกคน”

ส่วนวานนี้ (3ก.พ.62) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ถูกเสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา นำทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 14 เขต ร่วมบวงสรวงอนุสาวรย์ท้ายสุรนารี เพื่อความเป็นศิริมงคล เอาฤกษ์เอาชัย และสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้สมัครและผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย โดยมีประชาชนในจังหวัดให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

นายชัชชาติ ระบุว่า จากการลงพื้นที่พบปะประชาชนทั้ง 14 เขต พบว่า ประเด็นสำคัญที่พี่น้องประชาชนต้องการให้แก้ไขมากที่สุด คือ เรื่องปากท้อง, ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ, และความเป็นอยู่ โดยยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีแผนงานที่จะดำเนินการแก้ไขในเรื่องเหล่านี้ นอกจากนี้ยังมียุทธศาสตร์ไทยเชื่อมไทย ที่จะทำให้จ.นครราชสีมาเกิดการเชื่อมต่อด้านการคมนาคมขนส่ง, การค้า, และชลประทาน

นายชัชชาติ มั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยจะสามารถกวาดที่นั่ง ส.ส.ได้ทั้งจังหวัด 14 ที่นั่ง เพราะประชาชนให้การสนับสนุนอย่างดี ซึ่งไม่มีกังวลใจว่าพื้นที่จ.นครราชสีมาจะเคยเป็นฐานเสียงของพรรคชาติพัฒนา หรือแม้แต่อดีตส.ส.จากพรรคเพื่อไทยเมื่อปี 2554 จะย้ายไปซบพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงกกต.ลดเขตเลือกตั้งจาก 15 เหลือ 14 เขตก็ตาม ซึ่งขณะนี้พรรคฯยังคงมุ่งเป้าไปที่ ส.ส.แบบแบ่งเขตเป็นหลัก

ชัชชาติ.jpg


"ผมคิดว่าเอาทุกเขตเลยครับ ตอนนี้เราเน้นเขตเป็นหลัก ขอให้ยกเเถอะ ส่วนปาร์ตี้ลิสต์กฏหมายใหม่วิธีคำนวนวุ่นวายหน่อย ตอนนี้เรายังไม่ได้เน้นปาร์ตี้ลิสต์มาก แต่ว่าเราขอยกทั้ง 14 เขต ก็พยายาม เชื่อว่าผลงานที่ผ่านมาเราทำได้จริง และยึดโยงประชาชนเป็นหลัก" นายชัชชาติกล่าว

ส่วนประเด็นที่พรรคพลังประชารัฐได้ทาบทามพลเอกประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี เขามาอยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 1 ไม่กังวลใจเช่นกัน มองว่าเป็นเรื่องดีที่ประชาชนจะมีสิทธิตัดสินใจมากขึ้น เพียงแต่ขอให้ทุกฝ่ายอยู่ในกรอบกติกา โดยสุจริต ซึ่งส่วนตัวไม่กลัวอำนาจรัฐในการหาเสียง เพราะเชื่อว่าที่ผ่านมาประชาชนต่างเห็นผลงานรัฐบาลเพื่อไทยมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย และประชาชนในยุคนี้ไม่ชอบความอยุติธรรมอยู่แล้ว ซึ่งหากมีการดิสเครดิตฝ่ายตรงข้ามอาจจะกลายเป็นกระแสลบกับพรรคดังกล่าว

โดยในวันนี้ (4ก.พ.) เวลา 07.00 น. นายชัยชาติ จะนำทีมว่าที่ผู้สมัครทั้งหมดด้วยตัวเองไปยังสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 8 พรรษาเพื่อลงรับสมัครเลือกตั้งทั้ง 14 เขต ทั้งนี้นายชัชชาติได้กำชับว่าที่ผู้สมัครทั้งหมดให้ปฏิบัติตามกฏระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะหลังจากการได้หมายเลขสมัครรับเลือกตั้งแล้ว