ไม่พบผลการค้นหา
เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษร้ายแรง นัดชุมนุมใหญ่ 5 มิ.ย.นี้ หน้าทำเนียบฯ คัดค้านมติกรรมการวัตถุอันตราย ไม่แบน "พาราควอต" สวนทางข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุขและคณะทำงานจาก 4 กระทรวงหลัก

จากมติที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ไม่ยกเลิกการใช้ วัตถุอันตราย 3 รายการ คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอสและไกลโฟเซต แต่ให้จำกัดการใช้อย่างเข้มงวดกว่าเดิม โดยจะให้กรมวิชาการเกษตรเสนอมาตรการควบคุม กำกับสารเคมี อาทิ กำหนดให้จำหน่ายในสถานที่กำหนด กำหนดคุณสมบัติของผู้ใช้ และผู้รับจ้างพ่นสารเคมี ต้องเป็นผู้การฝึกอบรมเท่านั้น

ล่าสุด เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษร้ายแรงนัดชุมนุมใหญ่ ในวันที่ 5 มิ.ย. 2561 เวลา 08.00 น. หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อคัดค้านมติดังกล่าว เนื่องจากสวนทางข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุขและคณะทำงาน 4 กระทรวงหลัก และยังเป็นการเพิกเฉยข้อเสนอของประชาคมวิชาการจากทั่วประเทศ ไม่โปร่งใส และผลประโยชน์ทับซ้อน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษร้ายแรง ได้ออกแถลงการณ์โดยระบุว่า มติดังกล่าวเป็นการตัดสินใจทางนโยบายที่เอื้ออำนวยประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ค้าสารพิษ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมโดยรวม สวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศว่าจะนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

ผลของการตัดสินใจนี้เป็นไปตามข้อเสนอของอนุกรรมการเฉพาะกิจฯซึ่งถูกตั้งขึ้นโดยมีตัวแทนที่มาจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหลัก มีการใช้เอกสารที่เป็นข้อมูลล้าสมัยขัดแย้งกับข้อมูลเชิงประจักษ์และงานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับความเป็นพิษและผลกระทบจากสารพิษเหล่านี้ รวมทั้งมีกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียจากสมาคมอารักขาพืชไทย ซึ่งเป็นสมาคมการค้าของบริษัทสารพิษ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ร่วมอยู่ในกระบวนการตัดสินใจ ซึ่งอาจผิดกฎหมายวัตถุอันตราย มาตรา 12 ซึ่งระบุว่า “กรรมการผู้มีส่วนได้เสียเป็นการส่วนตัวเรื่องใด กรรมการผู้นั้นไม่มีสิทธิ์ออกเสียงในเรื่องนั้น”

นอกจากนี้ ผลการลงมติเช่นนี้สะท้อนโครงสร้างล้าหลังของคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ไม่อาจปกป้องผลประโยชน์และสุขภาพของประชาชน แต่กลับเป็นเครื่องมือของกลุ่มบริษัทสารเคมีกำจัดศัตรูพืชซึ่งรัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบ

เครือข่ายฯ ขอเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำรัฐบาล สั่งการให้มีการทบทวนการลงมติที่เป็นไปอย่างไม่โปร่งใส บทบาทซ้อนทับ และมีผลประโยชน์ทับซ้อนนี้ของคณะกรรมการวัตถุอันตรายโดยเร็ว พร้อมกันนี้เครือข่ายฯจะขอเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศร่วมกันเลิกซื้อสินค้าและบริการจากบริษัทหรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนพาราควอต และคลอร์ไพริฟอส


ข่าวเกี่ยวข้อง :