จากกรณีที่ นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะผลักดันให้รัฐบาลประกาศให้ประเทศไทยยกเลิกการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชนั้น ในวันนี้ (18 ก.ย.) มีรายงานว่า ที่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขอำเภอบัวใหญ่ ได้ทำการสุ่มตรวจเลือดเกษตรกรในพื้นที่ จำนวน 10 ตำบล 132 หมู่บ้าน พบว่าเกษตรกรร้อยละ 5 มีสารพิษตกค้างปนเปื้อนในกระแสเลือด บางรายอยู่ในระดับอันตรายเกินกว่าค่ามาตรฐาน เนื่องจากที่ผ่านมาในพื้นที่อำเภอบัวใหญ่ประสบปัญหาภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงและแมลงศัตรูพืชระบาดมาก ส่งผลให้เกษตรกรหลายรายใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืชและบำรุงรักษาต้นข้าวรวมถึงพืชผลทางการเกษตรชนิดอื่นๆ เช่น ผักและผลไม้
ด้าน ดร.พงษ์พิพัฒน์ ชุ่มสีดา สาธารณสุขอำเภอบัวใหญ่ เปิดเผยว่าจากการสุ่มตรวจเลือดเกษตรกรก็ยังคงพบปัญหาสารพิษตกค้างในกระแสเลือดของเกษตรกรอยู่หลายราย ดังนั้นเกษตรกรควรเพิ่มความใส่ใจในการป้องกันตนเอง โดยมีวิธีง่ายๆ โดยการอ่านฉลากสารเคมีข้างขวดยาและให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เรื่องการสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิดมีอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม รวมทั้งการเก็บอุปกรณ์ที่ใช้สัมผัสกับสารเคมีเหล่านั้นให้เป็นอย่างดีแยกจากอุปกรณ์อื่นๆและการทิ้งขวดสารเคมีต้องแยกทิ้งเฉพาะในขณะอันตรายไม่ควรทิ้งปะปนกับขยะทั่วไป ส่วนชาวบ้านผู้บริโภคทั่วไปควรมีการล้างพืชผักด้วยน้ำเปล่าหลายๆครั้งเพื่อชะล้างสารพิษที่อาจจะตกค้าง รวมถึงการบริโภคสมุนไพรเพื่อช่วยใสการขับพิษ เช่น รางจืด ก็จะช่วยได้อีกทางหนึ่ง
นอกจากนี้ ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมามีเกษตรกรจากหลายอำเภอของ จ.นครราชสีมา เข้ามารักษาอาการป่วยจากผลกระทบจากสารเคมีที่ใช้ในการกำจัดศัตรูพืช อาทิ ชายวัย 50 ปี จาก อ.บัวลาย ยึดอาชีพทำสวนผักปลูกผักขายมานานและได้ใช้ยาฆ่าแมลงกำจัดศัตรูพืชที่มากัดกินผักที่ปลูกไว้มาตลอด จนยาฆ่าแมลงซึมเข้าที่นิ้วมือที่เป็นแผลแล้วกระจายเข้าสู่กระแสเลือดจนนิ้วมือเน่าเปื่อยเริ่มกุดมีอาการเจ็บปวด แพทย์ต้องตัดนิ้วมือทิ้งและรักษาตามอาการ
นอกจากนี้ยังมีชายวัย 68 ปี จากอำเภอโชคชัย จ.นครราชสีมา โดยบอกกับแพทย์ว่ามีอาชีพทำนามาค่อนชีวิตและมักจะใช้ยาฆ่าหญ้าฉีดในนาข้าว โดยไม่ได้ป้องกันตัวเองที่ดีพอ ติดต่อกันมาเป็นเวลานาน อยู่ๆ มีอาการชาขาแล้วรู้สึกเหนื่อยง่ายและหายใจหอบ ญาติจึงได้นำตัวไปพบแพทย์ที่ รพ.โชคชัย แต่อาการไม่ดีขึ้น พร้อมกับมีตุ่มพุพองตามขา มือ และร่างกาย แพทย์ รพ.โชคชัย จึงส่งต่อมารักษา รพ.มหาราชนครราชสีมา แพทย์ลงความเห็นว่าไม่มียารักษาให้หายขาดได้ ทำได้เพียงรักษาตามอาการ โดยแพทย์ตรวจพบสารเคมีในกระแสเลือด ซึ่งผู้ป่วยเดิมเป็นเสาหลักของครอบครัวแต่ทุกวันนี้กลายเป็นภาระของครอบครัวในที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง