จากกรณีที่นายนรินทร์ (สงวนนามสกุล) จำเลยคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้นำสติ๊กเกอร์โลโก้ 'กูKult' ซึ่งเป็นเพจเสียดสีการเมืองไปติดบนพระบรมสาทิสลักษณ์รัชกาลที่ 10 บริเวณหน้าศาลฎีกาในระหว่างการชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2563
ล่าสุด วันนี้ (4 มี.ค. 2565) 'iLaw' รายงานว่า ศาลมีคำพิพากษาว่า การที่จำเลยนำสติกเกอร์ไปติดคาดพระเนตรบนพระบรมฉายาลักษณ์บนพระบรมสาทิสลักษณ์ของรัชกาลที่ 10 "เป็นการแสดงตนให้ยิ่งใหญ่เหนือกว่า" แม้จะกระทำต่อพระบรมฉายาลักษณ์ก็เป็นการดูหมิ่นต่อองค์พระมหากษัตริย์ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ลงโทษจำคุก 3 ปี แต่การไปร้องทุกข์ต่อตำรวจ สน.ชนะสงครามของนรินทร์ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษจำคุกให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 2 ปี
หลังศาลมีคำพิพากษา ทนายจำเลยใช้เงินสด 100,000 บาท จาก 'กองทุน ดา ตอร์ปิโด' ซึ่งเป็นหลักทรัพย์เดิมที่ใช้วางประกันต่อศาลชั้นต้นขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลอาญามีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยระหว่างอุทธรณ์คดี
พงศ์เพชร คงหอม ทนายของ 'นรินทร์' จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า มีข้อน่าสังเกตว่าคดีดังกล่าวเขียนคำพิพากษาในเวลารวดเร็วมาก ใช้เวลาเพียง 3-4 วันหลังเสร็จสิ้นการสืบพยานก็นัดฟังคำพิพากษา ซึ่งคดีอื่นๆ ใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน อีกทั้งในระหว่างกระบวนการพิจารณาคดีก็มีการตัดพยานทั้งฝั่งโจทก์และจำเลยออกจำนวนมาก
"นี้เป็นคดี 112 คดีแรกที่มีการพิพากษาของศาลชั้นต้น หลังมีการเคลื่อนไหวของคณะราษฎรตั้งแต่ปี 2563 เป็นคดีแรกที่ตัดสินเลย แล้วคำพิพากษาออกมาก็ค่อนข้างขยายการบังคับใช้มาตรา 112 ให้กว้างขึ้นกว่าที่ผ่านมา" พงศ์เพชร กล่าว และกล่าวต่อว่าหลังจากนี้จะเดินหน้ายื่นอุทธรณ์ต่อไป