ไม่พบผลการค้นหา
‘พีระพันธุ์’ เผยเหตุผล ‘พล.อ.ประยุทธ์’ วางมือทางการเมืองไม่อยากทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติมีปัญหาถูกจับโยงพยายามตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยจนทำให้พรรคได้รับผลกระทบ แต่ยังยืนเคียงข้างพรรคตลอดไป

เมื่อวันที่ 11 ก.ค.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์เฟซบุ๊กหลังจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติประกาศวางมือทางการเมือง มีเนื้อหาระบุว่า กราบเรียนเพื่อนสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติและพี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่านครับ

ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้หารือกับผมเกี่ยวกับเส้นทางการเมืองของท่านว่า ท่านไม่มีความประสงค์จะแสวงหาอำนาจทางการเมืองเพื่อประโยชน์อะไรส่วนตัวเลย ท่านเพียงอยากขอโอกาสสานงานต่อในสิ่งที่ท่านมุ่งหวังตั้งใจ แต่เมื่อไม่มีโอกาสนั้นและตัวท่านเองเห็นว่าท่านถูกโยงเป็นประเด็นให้พรรคถูกวิพากษ์วิจารณ์

ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษของท่าน ที่เกรงใจคนอื่นอยู่เสมอ ท่านเกรงว่าจะทำให้พรรคมีปัญหา อีกทั้งมีการพยายามสร้างเรื่องว่าท่านพยายามจะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยทำให้เสียภาพทั้งตัวท่านและพรรค ดังนั้น เพื่อยุติปัญหาทั้งหมดท่านจึงเห็นว่าการวางมือทางการเมืองของท่านเป็นหนทางที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามท่านยังจะยืนเคียงข้างพวกเราและพรรคเราตลอดไป เพื่อนสมาชิกพรรคและพี่น้องประชาชนที่รักทุกท่านครับ วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติได้รับปลูกฝังบ่มเพาะจากการสนับสนุนของท่านทำให้เรามี ส.ส.เข้าไปทำงานเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินถึง 36 คน

ผมมั่นใจว่า พวกเราทั้ง 36 คน จะเป็นเมล็ดพันธุ์ของคนที่เข้ามาทำงานเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนและเราจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้รับการสนับสนุนให้มั่นคงและมีจำนวนมากยิ่งขึ้นในโอกาสต่อไป ทุกอย่างเดินหน้าได้ด้วยกำลังใจและความเชื่อมั่นเสมอ ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ


ย้ำจุดยืนพรรค​เดินหน้าตามเจตนารมณ์​ 'ประยุทธ์​'

ด้านเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วยทีมโฆษกพรรค ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคถึงกรณีที่ พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ในเรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ ขอแจ้งกับสื่อมวลชน ซึ่งเรื่องนี้ตนมีโอกาสพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึง พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และผู้บริหารของพรรค บางส่วนไปแล้ว ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้แสดงจุดยืนเหมือนเช่นที่แถลงข่าวว่าต้องการวางมือทางการเมือง 

ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญ มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนภารกิจ การเมืองก่อนการเลือกตั้ง และได้ร่วมวางรากฐานที่มั่นคงให้กับพรรค ซึ่งจะเป็นต้นทุนสำคัญในการขับเคลื่อนงานการเมืองต่อไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นสสทั้งหมด 36 ที่นั่ง หรือเสียงโหวตจากพี่น้องประชาชนทั่วทั้งประเทศ หรือเป็นต้นทุนที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้ไว้กับพรรครวมไทยสร้างชาติ

ซึ่งเรายืนยันจะสานต่อภารกิจทางการเมือง ด้วยอุดมการณ์ที่แน่วแน่มั่น ปกป้องสถาบันเสาหลักของประเทศชาติ ตามเจตนารมณ์ของพลเอกประยุทธ์ต่อไป ถึงแม้ว่าจะวางมือทางการเมือง แต่พรรครวมไทยสร้างชาติยืนยันกับประชาชนว่าเราจะเดินหน้าสานต่อภารกิจทางการเมือง ด้วยอุดมการณ์ที่แน่วแน่มั่นคง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์​ ประกาศวางมือทางการเมืองแล้วได้บอกหรือไม่ว่าจะไปทำอะไรต่อ  เอกนัฏ กล่าวว่า สำหรับตนอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้พัก เพราะใน ขณะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ตนเชื่อว่าได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดกำลัง จนถึงวินาทีสุดท้าย จนกว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเข้าปฏิญาณตน ซึ่งเรายังไม่แน่ใจว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ซึ่งตนเชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด จากนี้ไปตนหวังว่าพลเอกประยุทธ์ จะได้พักผ่อนบ้าง 

ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคจะมีการลาออกเพิ่มเติมหรือไม่ เอกนัฏ ระบุว่า ขณะนี้ยัง รอให้มีการโหวตนายกฯก่อน ส่วนหลังจากนี้จะมีการขอคำแนะนำจาก พล.อ.ประยุทธ์ อีกหรือไม่ เอกนัฏ กล่าวว่า สมาชิกของพรรครวมไทยสร้างชาติ ทุกคน ทั้งส.ส.และไม่ใช่ส.ส. รวมถึงกองเชียร์และสมาชิกทุกคน ไม่ว่า

พล.อ.ประยุทธ์ จะดำรงอยู่ในสถานะใด จะยังคงไว้ซึ่งความรักความเคารพและความ ศรัทธา​ ที่ผ่านมาถือว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ให้กับสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเราจะนำท่านมาเป็นแบบอย่าง ในการทำหน้าที่ในฐานะนักการเมือง​ ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และประชาชน ต่อไป และเชื่อว่าทุกคนจะได้รับคำแนะนำที่จาก พล.อ.ประยุทธ์​

ขณะเดียวกัน เอกนัฏ ระบุว่า ช่วงเวลาที่ทำงานกับ พล.อ.ประยุทธ์​ มีความประทับใจ ที่จะจารึกไว้ในความทรงจำของพวกเราตลอดไป แม้ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ แต่พรรคยังจะ ทำงานด้วยความเข้มแข็ง และพรรคจะมีการพัฒนา ให้เจริญเติบโตต่อไปในอนาคต