ไม่พบผลการค้นหา
‘เอกนัฎ’ เลขาฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัวทีมโฆษกชุดใหม่ ‘อัครเดช’ นั่งโฆษกพรรค ‘รัดเกล้า-พงศ์พล-ชินภัสร์’ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต นั่งรองโฆษกฯ ชูการสื่อสารเชิงรุก สร้างฐานแฟนคลับทุกวัย ไม่หวั่นทัวร์ลง หวังสร้างพื้นที่สร้างความเข้าใจ ยัน ‘พีระพันธุ์’ ไม่สละตำแหน่ง ส.ส. หลังยังไม่เข้ารายงานตัวต่อสำนักเลขาฯ สภาผู้แทนฯ ยันอยากทำหน้าที่ เลขาฯ นายกฯ ให้เต็มที่ ปัดตอบทันรัฐพิธีหรือไม่ โยนเจ้าตัวตัดสินใจ

วันที่ 30 มิ.ย. ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัวทีมโฆษกพรรคชุดใหม่ ภายหลังได้ประชุมพูดคุยถึงแนวทางของพรรคหลังการเลือกตั้ง โดย ระบุว่า แม้จะมี ส.ส.เขต เพียง 36 ที่นั่ง แต่คะแนนบัญชีรายชื่อมีถึง 4.7 ล้านเสียง จึงต้องนำคะแนนเสียงแบบบัญชีรายชื่อไปใช้เป็นต้นทุนเพื่อสานต่อภารกิจ และเจตนารมณ์ทางการเมืองของพรรคอย่างต่อไป 

เอกนัฏ กล่าวว่า แม้การจัดตั้งรัฐบาลไม่ใช่หน้าที่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่การเลือกประธานสภาฯ และนายกรัฐมนตรี มติของพรรคยืนยันว่า ไม่สนับสนุนในกรณีที่มีวาระผลักดันแก้ไข ม.112 รวมถึงภารกิจปรับปรุงพัฒนาของพรรค วิธีการทำงานของพรรคเพื่อให้ตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงของสังคม 

เอกนัฏ ย้ำว่า ทีมโฆษกชุดใหม่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ นอกจากเป็นกระบอกเสียงให้พรรคแล้ว แต่ยังต้องเป็นหน่วยสำคัญที่จะได้รับฟังความคิดเห็น แนวทางการทำงาน คำแนะนำจากประชาชนที่ยังมีความศรัทธาต่อตัวพรรคต่อสมาชิกของพรรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยึดมั่นอุดมการณ์ของพรรคเป็นหลัก 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โฆษกพรรค ได้แก่ อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี เขต 4 รองโฆษก 3 คน ได้แก่ รัดเกล้า สุวรรณคีรี อดีตผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 2 พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ อดีตผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 22 และชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา อดีตผู้สมัคร ส.ส. เชียงใหม่ เขต 1 

นอกจากนี้ยังมีที่ปรึกษาโฆษกพรรคอีก 3 คน ได้แก่ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค และศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีตผู้สมัคร ส.ส.อุตรดิตถ์ เขต 3 

โดย อัครเดช โฆษกของพรรค กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณกรรมการบริหารพรรค โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานประธานยุทธศาสตร์ฯ ของพรรค และพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค และทุกท่านที่ได้ให้ความไว้วางใจ 

ขณะที่รองโฆษกฯ ทั้ง 3 คน ยืนยันตรงกันว่า จะทำงานอย่างเต็มที่เพราะมาด้วยพลังที่เต็มเปี่ยม เพื่อผลักดัน และส่งเสริมให้สังคมไทยก้าวหน้า ควบคู่ไปกับความมั่นคง เพื่อให้สักวันหนึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นคำตอบที่ใช่ของคนไทยทุกคน และเป็นความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติมาอยู่ตรงนี้ อีกทั้งด้วยความที่ทีมโฆษกไม่ได้มีประสบการณ์การเมืองมาก จึงสามารถเข้าถึงบุคคลที่ไม่ได้ติดตามการเมือง

สำหรับยุทธศาสตร์การสื่อสารของทีมโฆษกพรรค ระบุว่า ต้องมีการเข้าถึงง่าย ภาษาที่เราใช้ และโทนการสื่อสารต้องเข้าใจง่าย อีกทั้งยังต้องมีการสื่อสารเชิงรุก ในบางครั้งต้องมีการแก้ข่าวที่ไม่ใช่การตั้งรับ เพื่อที่ว่า อย่างน้อยเป็นการทำให้พื้นที่ตรงกลางมีข้อมูลเป็นเท็จน้อยลง และนำไปสู่ความเข้าใจทางการเมือง เพื่อทำให้กลุ่มแฟนคลับของพรรครวมไทยสร้างชาติมีทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ 

เนอกจากนี้ยังกล่าวถึงกรณีที่ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติยังไม่ไปรายงานตัว ส.ส. ต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่า ขั้นตอนการรายงานตัว ส.ส. นั้น ตามกฎหมายไม่ได้มีข้อบังคับว่า ต้องไปรายงานตัวเมื่อไหร่ แต่เชื่อว่า ขณะนี้ พีระพันธุ์ อยากจะทำหน้าที่เป็นเลขาธิการนายกฯ ก่อน ซึ่งวาระของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะหยุดลงเมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาปฏิญาณตน ซึ่งอยากทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และนานที่สุดก่อนจะไปทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 

ทั้งนี้ เอกนัฏ ยังยืนยันว่า หัวหน้าพรรคไปต่อแน่นอน เพียงแต่มี 2 ตำแหน่งคือ เลขาฯ นายกฯ และตำแนห่ง ส.ส. จึงต้องตัดสินใจว่า จังหวะไหนจะทำอะไร แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจะไปรายงานตัวเอง ส่วนจะไปรายงานตัวก่อนรัฐพิธีหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องรอจังหวะที่เสร็จสิ้นแล้วจะไปรายงานตัวเอง