วันที่ 4 ก.ย. ที่อาคารรัฐสภา วันชัย สอนศิริ สว. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของวุฒิสภาในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 11 ก.ย. นี้ โดยระบุว่า ในวันที่ 6 ก.ย. นี้ จะมีการประชุมวิปวุฒิสภา เพื่อหารือตกลงในหลักการและรายละเอียด ก่อนจะส่งตัวแทนเข้าพูดคุยในวิป 3 ฝ่ายต่อไป ตามหลักปฏิบัติคือเมื่อได้รับรายละเอียดนโยบายของรัฐบาลแล้ว จะนำมาแยกแยะจัดแจง แล้วให้สมาชิกแจ้งความประสงค์ว่าจะอภิปรายในประเด็นใด
วันชัย เชื่อว่า ในครั้งนี้ เท่าที่มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ในนโยบายแทบทุกเรื่องของรัฐบาล ทั้งดิจิทัลวอลเล็ต นโยบายความปรองดอง และการทหาร จะต้องมีการซักถามกันมาก เพราะสมาชิกวุฒิสภาทุกคนมีความกะตือรือร้นกันอย่างมาก ในการประชุมหารือครั้งสุดท้ายในวาระของวุฒิสภาชุดนี้ โดยเฉพาะ สว. จากต่างจังหวัด ที่ต้องการให้นโยบายมาสร้างความให้เกษตรกรตามที่หาเสียงไว้
"สมาชิกวุฒิสภาคงจะไม่ปล่อยให้รัฐบาลแถลงนโยบายแล้วกลับไปเฉยๆ จะต้องหาคำมั่นยืนยันให้ชัดเจนว่า สิ่งที่หาเสียงไว้แต่ละเรื่องของรัฐบาลทำได้จริงหรือเปล่า" วันชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลนั้น สมาชิกวุฒิสภายังมีความกังวลที่จะไปแตะต้องแก้ไขหมวดสำคัญ โดยเฉพาะหมวดที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ ที่ผ่านมารัฐบาลได้แถลงนอกสภา แต่ในการแถลงต่อรัฐสภาจะขอคำมั่นจริงๆ ว่าจะแตะต้องหมวดเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์หรือไม่ รวมถึงเนื้อหาสาระที่จะแก้ โดยเฉพาะที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.)
"บางทีถ้า สสร. มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด อิทธิพลจากพรรคการเมืองต่างๆ ก็จะครอบงำไปหมด ทำให้รัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้มาจากความต้องการของประชาชนจริงๆ อาจจะเป็นความต้องการของพรรคการเมือง เราจะหาความพอดี หรือข้อตกลงให้ชัดเจน ว่าคนที่จะมาร่างรัฐธรรมนูญนั้นควรจะมีภาคส่วนใดบ้าง"
ส่วนข้อวิจารณ์เรื่องความไม่เหมาะสมของรัฐมนตรีในบางกระทรวงนั้น วันชัย มองว่า บางคนอาจมีข้อตำหนิเรื่องความไม่เหมาะสม แต่โดยส่วนตัว ถือว่า การจัดคณะรัฐมนตรีในสถานการณ์การเมืองแบบนี้ ถือว่าดีแล้ว แต่ลำพังแค่หน้าตารัฐมนตรีอาจจะไม่พอ เรื่องสำคัญคือผลงาน จะลบข้อครหาของรัฐมนตรีได้ หากผลงานดีเชื่อว่าจะลบข้อตำหนิไปได้หมด แต่หากไม่มีผลงานเลยจะยิ่งกว่าถูกตำหนิอีก จะเหมือนการซ้ำเติมหน้าตาของรัฐมนตรีคนนั้น
วันชัย ย้ำว่า การที่รัฐบาลจะอยู่ได้หรืออยู่ยาวหรือไม่ มาจากปัจจัยหลักคือ มีผลงานหรือไม่ เป็นเรื่องสำคัญที่สุด พรรคร่วมรัฐบาลทะเลาะเบาะแว้งแตกแยก จะทำให้รัฐบาลอายุสั้น ในสถานการณ์นี้หากผนึกกำลังกันได้และมีผลงานจะอยู่ได้ยาว โดยเฉพาะการไม่โกงกินทุจริตคอรัปชั่น หากเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้ว มาทำมาหากินเอื้อพวกพ้อง ถือว่าเป็นรัฐบาลฆ่าตัวตาย บทเรียนอดีตที่ผ่านมา จะช่วยให้รัฐบาลแก้ไขสิ่งที่บกพร่องต่างๆ
นอกจากนี้ วันชัย ยังให้ความเห็นว่า การแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในครั้งนี้ อาจจะใช้เวลามากกว่า 1 วัน เพราะในสมัยของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา ใช้เวลาถึง 30 ชั่วโมง ส่วนตัวมองว่าคราวนี้อาจจะใช้เวลามากกว่านั้น เพราะทั้ง สว. และพรรคก้าวไกลน่าจะใช้เวลาอภิปรายพอสมควร ส่วนสาเหตุที่ใช้เวลามากเพราะอะไร น่าจะเดากันเองได้