ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ขึ้นเวทีกลางห้าแยกลาดพร้าว ว่า แกนหลักสำคัญของการชุมนุมในวันนี้ (27 พ.ย.) เป็นการซ้อมรัฐประหาร เพราะการชุมนุมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งอาจสร้างความกังวลให้กับบุคคลในอำนาจ

ประชาชนยิ่งต้องรู้ให้เท่าทันทุกกลยุทธ์ที่อาจใช้ให้เป็นเงื่อนไขในการรัฐประหารได้ นอกจากประชาชนต้องร่วมกันชุมนุมอย่างสันติเพื่อกดดันให้วันที่ 2 ธ.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณีคดีบ้านพักหลวงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นี่คือ เหตุผลที่เราออกมา 3 วัน 5 วัน 7 วัน คาดหวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยด้วยความเป็นธรรม ความเปราะบางสำคัญของการชุมนุมอยู่ที่ความสันติ หากมวลชนร่วมกันชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ และไม่มีความรุนแรงจะไม่มีเหตุผลให้เกิดการรัฐประหารได้ 

อย่างไรก็ดีกลิ่นของรัฐประหารมีมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ต่างออกไปจากอดีต คือผู้คนมีความพร้อมในการรับมือกับรัฐประหารมากกว่าที่เคยเป็น พร้อมแนะมวลชน หากมีการรัฐประหารจริง ให้พร้อมใจลงถนนทั้งหมด เพื่อไม่ให้รัฐบาลสามารถบริหารประเทศได้ และภายใน 3 วัน หากการทำรัฐประหารไม่สำเร็จ จะหมดความชอบธรรม และคนที่ทำจะกลายเป็นกบฏทันที 

รุ้ง กล่าวในช่วงท้ายถึงเจ้าหน้าที่ทหารชั้นผู้น้อยว่า "การรัฐประหารจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ยอม การรัฐประหารคือกบฏ และวินาทีที่ผู้บังคับบัญชาทำรัฐประหาร เขาไม่มีความชอบธรรมอีกต่อไป วินาทีที่เขาทำรัฐประหาร เขาคือกบฏ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน รุ้ง ได้โพสต์หมายเรียกจากตำรวจ 2 พื้นที่ ได้แก่ สน.ชนะสงคราม และ สภ.เมืองนนทบุรี ที่ส่งมาในวันเดียวกันถึง 2 หมาย โดยเจ้าตัวได้โพสต์ว่า หมายที่ 2 ของวัน "112"

อานนท์ นำภา แกนนำราษฎร ปราศรัยว่า เขาพร้อมจะสั่งกำลังทหารให้รัฐประหารอีกครั้ง เพราะวันนี้ มีการระดมทหารเข้า กทม.จำนวนมาก หากเกิดรัฐประหารเราจะสู้แบบพื้นฐานความเป็นมนุษย์ เชื่อว่าอาชีวะมีความสามารถแกะรถถังให้เป็นเศษเหล็ก ส่วนคนที่เรียนศิลปะมาสามารถสาดสีทหารที่รัฐประหารได้ ทั้งนี้อยากขอให้ทุกคนต่อสู้ด้วยการชุมนุมอย่างสันติ หลายคนมาในวันนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ตนมาในวันนี้เป็นครั้งแรก เพราะครั้งแรกที่มีการชุมนุมที่นี่ ตนติดคุกอยู่ ครั้งหนึ่งคนรุ่นตนอยู่กับความปกติจนกลายเป็นคนไม่ปกติ หลับในโรงหนังยังต้องลุกขึ้นมายืน ทำเรื่องไม่ปกติจนกลายเป็นเรื่องปกติ ถ้าการรัฐประหารเกิดขึ้น วันนั้นคือเราขาดกัน เชื่อว่าทุกคนจะต้านรัฐประหารร่วมกัน ในการต้านรัฐประหาร ทุกคนจะเป็นอิสระ จะไม่มีใครเป็นแกนนำ ทุกคนเป็นแกนนำด้วยตัวเอง

จากนั้น เวลา 22.25 น. นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ได้ปราศรัยยุติการชุมนุม และขอให้ติดตามการชุมนุมในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ย.) จากเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมย้ำตนเองสู้มาแล้ว 6 ปี ตั้งแต่สมัย คสช. ภายใต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำรัฐประหาร ขอประชาชนทุกคนร่วมสู้ต่อไป 

ไผ่ กล่าวว่า สังคมไทยมีผู้ฉีกกฎหมายเดิม แล้วร่างกฎหมายใหม่สร้างความชอบธรรมให้ตนเอง แค่กลับพยายามปิดปาก ไม่ให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพอย่างที่พึงได้รับ 

"คนทำผิดกฎหมาย คนฉีกกฎหมาย ใช้ 112 มาเล่นงานพวกเรา สังคมที่ผู้มีอำนาจใช้กฎหมายโดยไม่สนใจประชาชน ใช้เพื่อจำกัดความคิดทางการเมือง เพราะคุณไม่ยอมรับความจริงว่า ประชาชนเปลี่ยนแล้ว" ไผ่ กล่าว

ไผ่ ย้ำว่า จุดยืนของการชุมนุมทั้งหมดเพื่อทวงถามความยุติธรรมคืนมาเท่านั้น เมื่อกฎหมายไม่มีอำนาจช่วยเหลือประชาชน ผู้มีอำนาจมองไม่เห็นประชาชน ทางเลือกจึงเป็นการลงถนน 

ทั้งนี้ยืนยันการชุมนุมจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จากนั้นได้เปิดเพลงทุ่งลุยลายให้ผู้ชุมนุมได้ร่วมสนุกกันก่อนที่จะแยกย้าย