วันที่ 1 ก.พ. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 25 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) วาระพิจารณาญัตติด่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อแก้ปัญหากระบวนการยุติธรรมบังคับใช้อำนาจอย่างล้นเกิน สืบเนื่องจากการอดอาหารประท้วงของ ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ แบม-อรวรรณ ภู่พงศ์ 2 เยาวชนนักกิจกรรมทางการเมือง โดยมี องอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็น ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลคนแรกที่ร่วมอภิปราย
องอาจ ระบุว่า เห็นด้วยกับญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เมื่อวานในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ ได้หยิบยกเรื่องนี้เข้าหารือ สาเหตุที่เห็นด้วยมีหลายประการ หนึ่งในนั้นคือ ข้อเรียกร้องของ ตะวัน-แบม คือการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ให้สิทธิประกันตัว รวมถึงมาตรา 112
เราไม่ได้พิจารณาเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่เราเห็นว่าตั้งแต่ข้อเรียกร้อง ไปจนถึงวิธีการอดอาหารและน้ำเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย สังคมมีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย กับข้อเรียกร้องหรือวิธีการ แต่ตนเห็นว่า เราจะต้องเคารพในสิทธิเสรีภาพ และการตัดสินใจตามอุดมกาณ์ ที่เขาเชื่อว่าจะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง อย่างน้อยที่สุด เราต้องเคารพสิทธิเสรีภาพของทั้ง 2 คน
“การอดอาหารและน้ำเพื่อให้บรรลุข้อเรียกร้องนั้น เชื่อว่าคงไม่มีใครในสังคมอยากให้ทั้ง 2 เสียชีวิต ด้วยเหตุนี้ พร้อมช่วยคิดค้นวิธีการหาทางออกไม่ให้เสียชีวิต เพราะชีวิตของคนที่ไม่ว่าจะมีอุดมการณ์อย่างไรก็ตาม เราควรต้องเคารพ การเคลื่อนย้ายโรงพยาบาลก็เป็นทางหนึ่ง ส่วนทางการแพทย์ก็มีอีกหลายวิธีการที่จะรักษาชีวิต”
สำหรับข้อเรียกร้องนั้น ตนมองว่าดำเนินการได้ ควรจะส่งเสียงให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาได้ตามสมควร และควรส่งสัญญาณให้เห็นเป็นรูปธรรม เพราะปัญหาของกระบวนการยุติธรรมก็เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมอยู่แล้ว แม้แต่ข้อเรียกร้องเกี่ยวกับมาตรา 112 ตนเห็นว่ารัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องสามารถทำให้ปัญหาจากหนักเป็นเบาได้
เพราะมาตรา 112 ไม่ได้เพิ่งใช้ในยุคของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ในอดีต เช่น ช่วงของ อธิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ก็มีการใช้มาตรา 112 อยู่พอสมควร แต่แนวทางขณะนั้น แก้ไขโดยตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษากับการบังคับใช้กฎหมายตามมาตรา 112 ทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปพอสมควร
“ผมอยากจะฝากไว้ว่า ไม่ควรมีใครก็ตามนำการอดอาหารของตะวัน-แบม มาเป็นเงื่อนไขทางการเมืองเพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง ผมเชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น” องอาจ กล่าวทิ้งท้าย