นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ความคืบหน้าตั้งระบบเครื่องเอกซเรย์คร่อมสายพานลำเลียงกระเป๋าที่สนามสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจสอบกระเป๋าเดินทางที่โหลดจากเครื่องบินเข้ามาในประเทศไทยทุกใบ เพื่อป้องกันไม่ให้นำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะสินค้าแบรนด์เนม รวมถึงวัตถุต้องห้ามตามอนุสัญญาไซเตส ว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ เช่น นอแรด งาช้าง เกร็ดลิ่ม ตลอดจนสารตั้งต้นยาเสพติด อาวุธ สารเคมีที่เสี่ยงต่อการก่อการร้าย โดยขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการติดตั้งระบบแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ หลังจากนั้นจะมีการอบรมเจ้าหน้าที่ก่อน แต่ยังคาดการณ์ว่าจะเริ่มใช้ได้จริงภายในช่วงต้นปี 2563 อย่างแน่นอน

ส่วนประเด็นที่มีการจับกุมลูกเรือของการบินไทยลักลอบนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมโดยหลีกเลี่ยงภาษี กรมศุลกากร ระบุว่า ที่ผ่านมาการบินไทยและกรมศุลกากรได้มีการประสานความร่วมมืออย่างไม่เป็นทางการมาต่อเนื่อง และมีการจับกุมลูกเรือที่ลักลอบนำเข้าตลอด ซึ่งปกติลูกเรือจะต้องมีการปฎิบัติเหมือนกับผู้โดยสารทั่วไป ทั้งช่องเขียว ช่องแดง แต่ในส่วนของศูนย์ลูกเรือขณะนี้ยังไม่ได้มีแผนที่จะติดตั้งเครื่องเอ็กซเรย์

ทั้งนี้สถิติการจับกุมสินค้าแบรนด์เนมที่มีการลักลอบนำเข้าโดยไม่เสียภาษีในปีงบประมาณ 2562 ตั้งแต่ ต.ค. 61 – 3 ก.ย. 62 มีมูลค่าของกลางประมาณ 90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2561 ที่มีมูลค่าของกลางประมาณ 60 ล้านบาท โดยกรมศุลกากร ย้ำว่าจะมีมาตรการคุมเข้มมากขึ้น