อูมาโร ซิสโซโก เอมบาโล ประธานาธิบดีของกินีบิสเซาแถลงผ่านโทรทัศน์ Radio TV Bantaba ต่อประชาชนในประเทศว่า กลุ่มคณะรัฐประหารของกองทัพที่พยายามจะเข้ายึดอำนาจจากทางรัฐบาลประสบกับความล้มเหลว “ผมไม่เคยจินตาการเลยว่าพวกเราจะมาถึงสถานการณ์แบบนี้ ผมไม่เคยคิดเลยว่ากินีบิสเซาจะเกิดความพยายามในการก่อความรุนแรงในลักษณะดังกล่าวอีก”
ก่อนการแถลงของเอมบาโล มีการยิงปะทะกับระหว่างกองกำลังรักษาความปลอดภัยกับกลุ่มกบฏที่พยายามก่อการรัฐประหารกว่า 5 ชั่วโมง ทั้งนี้ เอมบาโลระบุว่ามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในคณะรัฐประหารเสียชีวิต “หลายราย” แต่ยังไม่มีตัวเลขยืนยันอย่างเป็นทางการว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ยิงปะทะกันมากเท่าไหร่ อย่างไรก็ดี กลุ่มกบฏที่เหลืออีกหลายคนถูกจับกุมตัวเอาไว้ได้แล้ว
เอมบาโลอ้างว่า ตนเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อการทำรัฐประหารในครั้งนี้ “วางแผนเอาไว้มาอย่างดี” ที่จะเข้ายึดอำนาจและสังหารตนเองตลอดจนคณะรัฐมนตรีของตน ซึ่งกำลังเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีในทำเนียบประธานาธิบดีของกินีบิสเซา เอมบาโลยังได้ระบุอีกว่า การทำรัฐประหารในครั้งนี้มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ค้ายาและกลุ่มคนฉ้อฉล
“อำนาจคือสิ่งที่คุณได้มาจากประชาชนผ่านบัตรเลือกตั้ง” เอมบาโลกล่าวในการแถลง “กินีบิสเซาต่างรู้สึกเศร้าสลดในวันนี้” ความพยายามในการก่อรัฐประหารในครั้งนี้ของกองทัพกินีบิสเซาเกิดขึ้นหลังจากการรัฐประหารในบูกินาฟาโซ อีกประเทศหนึ่งในทวีปแอฟริกา ที่ถูกกองทัพของประเทศเข้ายึดอำนาจสำเร็จเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ กลุ่มประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก (ECOWAS) ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องขอให้ทุกฝ่ายในกินีบิสเซาใช้สันติวิธี หลังจากเกิดเสียงกระสุนปืนยิงปะทะกันในทั่วบริเวณโดยรอบของทำเนียบรัฐบาล การยิงปะทะกันในกินีบิสเซาส่งผลให้ประชาชนในกรุงบิสเซา เมืองหลวงของประเทศต่างปิดตัวเงียบอยู่ในบ้านเรือน เพื่อรอฟังข้อมูลเพิ่มเติมจากรัฐบาลด้วยความหวาดวิตก
เอมบาโลเพิ่งขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2563 โดยเขาเผชิญหน้ากับความขัดแย้งจากกรณีการเลือกตั้ง ส่งผลให้เกิดข้อถกเถียงถึงความชอบธรรมของตัวเอมบาโลเอง ในการขึ้นครองตำแหน่งประมุขและผู้นำของประเทศ ตลอดจนความขัดแย้งระหว่างกองทัพและชนชั้นนำในประเทศที่แย่งอำนาจกันเอง
กินีบิสเซาเป็นประเทศเกิดใหม่ในทวีปแอฟริกา ที่ได้รับเอกราชจากโปรตุเกสไปในปี 2517 โดยตั้งแต่ปี 2523 กินีบิสเซาเจอกับความพยายามในการทำรัฐประหารทั้งที่สำเร็จไม่และไม่สำเร็จมาแล้วกว่า 9 ครั้ง ส่งผลให้กินีบิสเซาซึ่งเป็นประเทศยากจนอันดับต้นๆ ของโลก พบกับสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลงไปยิ่งกว่าเดิม
เนื่องจากชายแดนของประเทศที่ติดฝั่งมหาสมุทรในฝั่งตะวันตก กินีบิสเซาจึงเป็นจุดเชื่อมต่อการค้ายาจากลาตินอเมริกา เพื่อจำหน่ายจ่ายแจกไปทั่วทั้งทวีปแอฟริกา ส่งผลให้กินีบิสเซาประสบกับปัญหาทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมในหลากหลายรูปแบบ
ที่มา: