เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 เม.ย. 2566 ที่โรงเรียนจันทรุเบกษา อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฎิบัติการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย จักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการและรักษาการโฆษก พรรคเพื่อไทย ปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการเศรษฐกิจ พรรค นสพ.ชัย วัชรรงค์ ,สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ,อดิศร เพียงเกษ , ขัตติยา สวัสดิผล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย ศักดา คงเพชร เขต 7 เบอร์ 7 , กิตติ สมทรัพย์ เขต 6 เบอร์ 5 ,จิราพร สินธุไพร เขต 5 เบอร์ 3 และ ชญาภา สินธุไพร เขต 8 เบอร์4 โดยมีประชาชนร่วมฟังปราศรัยกว่า 5,000 คน
ชญาภา ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง หลายท่านได้ยิน นามสกุล ‘สินธุไพร’ ก็ยังสับสนสงสัย กราบเรียนทุกท่านว่า สินธุไพร ที่มี พ่อนิสิต-แม่เอมอร และพี่น้ำ จิราพร สินธุไพร อยู่กับ พรรคเพื่อไทย ไม่เคยย้ายพรรคหนีไปไหน และที่สำคัญอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตย อยู่กับพรรคเพื่อไทยมาตลอด ไม่เคยรับใช้หรือเป็นนั่งร้านให้กับฝ่ายเผด็จการแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ทั้งนี้ จังหวัดร้อยเอ็ดคือพื้นที่ประชาธิปไตยคือเกียรติภูมิ คือฐานที่มั่นของฝ่ายประชาธิปไตยมาโดยตลอด โดยเฉพาะในการเลือกตั้งซ่อม นายก อบจ.ร้อยเอ็ด เดือนกันยายน ปลายปีที่ผ่านมา พี่น้องได้สร้างประวัติศาสตร์ทางการเมืองของชาวร้อยเอ็ด ด้วยการปักธงประชาธิปไตยไว้ที่จังหวัดร้อยเอ็ด เทคะเเนน เลือกเอานายก อบจ.จากพรรคเพื่อไทย ด้วยคะเเนนชนะแบบถล่มทลาย ได้นายก อบจ. ‘ร้อยเอ็ดแลนด์สไลด์’ ไปรับใช้พี่น้องชาวร้อยเอ็ด
ชญาภา กล่าวว่า วันที่ 14 พ.ค.นี้ พี่น้องผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริงทุกท่านที่อยู่ตรงนี้ จะได้ใช้ 1 สิทธิ 1 เสียง ในการกำหนดชี้ชนะอยาคตของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง จะเป็นการทวงคืนโอกาส ทวงคืนศักดิ์ศรีกว่าเกือบ 1 ทศวรรษที่สูญหาย ให้ประเทศไทยได้กลับมามีที่ยืนบนเวทีโลกอย่างสง่างามอีกครั้ง โดยการนำของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ถือธงนำฝ่ายประชาธิปไตย พรรคการเมืองที่มีศักยภาพในการนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จและเป็นรูปธรรม และจะนำการเมืองไทยออกจากระบอบประยุทธ์ได้ พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายยุทธศาสตร์ เพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน และต้องมีเสียงในสภาฯ เกินกว่าครึ่ง เพื่อไปสู้กับ ส.ส.250 ที่มาจากการแต่งตั้ง เอาลุงออกไป และเอาเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน
จากนั้นเศรษฐา ปราศรัยว่า วันนี้ชื่นใจที่ได้เดินทางมาจังหวัดร้อยเอ็ด ตนรับทราบได้ถึงสายตาที่เป็นมิตร รอยยิ้ม และความจริงใจที่มีให้กับตน และคณะ ตอนนี้รู้แล้วว่าทำไมคณะทำงานจาก กทม.อยากเดินทางมาเยือนจังหวัดร้อยเอ็ดทั้งนี้ ตั้งแต่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ เวทีแรกที่ตนมาก็คือเวทีจังหวัดร้อยเอ็ดนี้ ตนรู้ว่าตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ประชาชนรายได้ตกต่ำ อากาศไม่บริสุทธิ์ ยาเสพติดระบาดทุกหัวระแหง แต่พรรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่งกลับมีนโยบายกัญชาเสรี แต่เพื่อไทยยืนยัน เราสนับสนุนกัญชาเพื่อ การแพทย์อย่างเดียว
เศรษฐา กล่าวอีกว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้ว รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ค้นพบข้าวพันธุ์ทุ่งกุลาร้องไห้ จดทะเบียนเป็นของคนไทย สร้างรายได้มากมาย แต่กลับไม่มีใครสานต่อตรงนี้ ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลเรายืนยัน สินค้าเกษตรจะราคาสูงขึ้น 3 เท่า และเราจะใช้นวัฒกรรมเข้ามาช่วยในการเพิ่มผลผลิตให้พี่น้อง และเราพรรคเพื่อไทยจะออกไปเปิดตลาดใหม่ๆให้พี่น้อง
นอกจากนี้ เรายังมีนโยบายเติมเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัล คนละ 10,000 บาท เพื่อให้พี่น้องประชาชรเอาไปจับจ่ายใช้สอย ในระยะทาง 4 กิโลเมตรนับจากที่อยู่ตามบัตรประชาชน และต้องใช้ภายใน 6 เดือนผลประโยชน์นี้ไม่ได้ตกอยู่แค่กับพี่น้องที่ได้เงินในบัตรเท่านั้น แต่คนค้าขาย คนที่มีสินค้าต่างๆจะได้ประโยชน์ไปด้วยนี่ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ทั้งระบบ ดังนั้น ขอให้พี่น้องชาวร้อยเอ็ดทุกคนออกไปใช้เสียงในวันที่ 14 พ.ค. ให้ถล่มทลาย เข้าคูหา กาเพื่อไทยให้ถล่มทลายทั้ง 2 ใบ เลือกทั้งคน ทั้งพรรค ไม่ปันใจให้ใคร ไม่มีพรรคพี่ ไม่มีพรรคน้อง เราจะกลับมามีความเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง
เศรษฐา กล่าวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะทำให้รายได้สุทธิของเกษตรกรสูงขึ้น3 เท่าโดยจะใช้นวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้ อีกทั้ง แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปต่างประเทศเปิดสินค้าการเกษตร เมื่อราคาสินค้าเกษตรสูง จะทำให้เงินในกระเป๋าก็จะเยอะ
ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้งเป็นรัฐบาล ถ้าครอบครัวไหนมี4-5 คน รับไปเลย 40,000-50,000 บาท เราจะใส่เงินใรกระเป๋าดิจิทัล 10,000 บาท ต้องใช้ใน 4 กิโลเมตรจากบัตรประชาชน เพราะต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้ามีทะเบียนในร้อยเอ็ดใช้ในกรุงเทพฯไม่ได้ แต่ผมต้องการให้กลับมาเยี่ยมเยียนพี่น้องมาใช้จ่ายที่บ้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาบปัจจุบันบริหารห่วย ไม่เห็นหัวประชาชน ดังนั้น ต้องเข้าคูหากาพรรคเพื่อไทย
"ถ้าอยากได้นายกฯ เพื่อไทย ไม่ว่าตัวผม แพทองธาร ชินวัตร ชัยเกษม นิติสิริ วันที่ 14 พ.ค. กา 2 ใบไม่ปันใจให้พรรคอื่นไม่มีพรรคพี่พรรคน้องให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์" เศรษฐา ระบุ