คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เป็นเจ้าภาพโรงทานแจกอาหารกล่องและแอลกอฮอล์ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่วัดลาดปลาเค้า เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ตามพระดำริของสมเด็จพระสังฆราชที่โปรดให้วัดทั่วที่มีความพร้อมจัดตั้งโรงทานช่วยเหลือประชาชน

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ประชาชนลำบากกันถ้วนหน้า คนตกงาน คนที่รับจ้างรายวันไม่มีรายได้ หรืออาชีพบริการอย่างมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็รายได้ลดลงไปกว่าครึ่ง ซึ่งทางวัดจัดตั้งโรงทานเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้พอประทังชีวิตในช่วงวิกฤตนี้ และขอให้คนที่พอมีกำลังทรัพย์มาช่วยกันคนละไม้คนละมือ 

ขณะเดียวกันตนมองว่ามาตรการของรัฐยังไม่มีประสิทธิภาพและยังพิจารณาไม่รอบคอบ เช่น การตั้งด่านตรวจคัดกรอง หรือการประกาศเคอร์ฟิว ถือเป็นมาตรการที่กระทบกับคนทำมาหากิน แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ได้ผลน้อย ตราบใดที่ยังไม่มีการค้นหาผู้ป่วยควบคู่ไปด้วย ซึ่งรัฐบาลเองยังไม่มีมาตรการค้นหาผู้ติดเชื้อ ตามที่พรรคเพื่อไทยได้เสนอ เพราะหากทำอย่างจริงจัง 21 วันก็จะสยบการระบาดของโรคได้ ซึ่งหากทำได้เร็ว คนอื่นๆ ก็จะปลอดภัย และยืนยันให้คนไทยกลับเข้าประเทศ แต่ต้องมีการกักตัว 14 วัน โดยรัฐจัดหาโรงแรมให้ และมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขดูแล พร้อมทั้งเรียกร้องให้จัดหาชุดเตรียมให้เพียงพอและตรวจหาผู้ติดเชื้อเหมือนกับเกาหลีใต้และไต้หวัน

คุณหญิงสุดารัตน์ย้ำว่ารัฐบาลจะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้ เพราะเป็นเหมือนยาแรงที่มีผลกระทบมาก หากเลือกใช้แล้วต้องทำให้จบเร็ว

อย่างไรก็ตาม คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เรื่องงบประมาณไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาจะกู้อย่างเดียว แต่รัฐบาลควรจะใช้งบประมาณกลางมาสนับสนุนเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ ตัดงบจากทุกกระทรวง 10-15 เปอร์เซ็นต์ เอามาเยียวยาประชาชนกับภาคธุรกิจ และค่อยกู้เงินมาฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่หากการแก้ปัญหาโรคระบาดล่าช้าจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจทรุด