บรรยากาศการนัดรวมตัวชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 21 ต.ค. 2563 ของคณะราษฎร 2563 หลังการประกาศผ่านเฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอก มวลชนได้เคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปยังทำเนียบรัฐบาล ผ่านถนนเพชรบุรี แยกอุรุพงษ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังป้องกันบริเวณแยกอุรุพงษ์ 

เวลา 19.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมหยุดอยู่ตรงแยกอุรุพงษ์เป็นเวลา 1 ชั่วโมงจึงสามารถฝ่าทะลุแนวกั้นของตำรวจไปได้ และเคลื่อนมวลชนไปยังทำเนียบรัฐบาล

เวลาประมาณ 21.00 น. ขบวนผู้ชุมนุมเดินทางถึงบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐก่อนพบรถเมล์สีขาว-แดง 1 คันจอดกั้นที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ถ.พิษณุโลก โดยแกนนำได้ขึ้นหลังคารถเมล์ พร้อมทั้งชูป้ายขนาดใหญ่ว่า "ใจเย็นๆ ใจร่มๆ" 

เวลา 21.30 น. กรกช แสงเย็นพันธ์ แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย นำมวลชนราษฎร เดินทางมาถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล ฝั่งสะพานชมัยมรุเชฐ ถ.พิษณุโลก โดยยื่นหนังสือใบลาออกขนาดใหญ่ให้กับ ประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ตัวแทน พล.อ.ประยุทธ์ โดยมี พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ยืนอยู่เคียงข้าง

ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ แกนนำกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย ได้ประกาศต่อหน้ามวลชนว่า การต่อสู้ยังไม่จบ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ลาออกภายใน 3 วัน จะได้เจอกับราษฎรอีกแน่นอน

จากนั้นมวลชนได้ตะโกนส่งเสียงพร้อมกันว่า "ปฏิรูปสถาบัน" และ "ประยุทธ์ ลาออก" ดังกระหึ่ม

หลังรับเรื่องเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินกลับไปทางฝั่งด้านหลังรถเมล์ที่จอดกั้นไว้ ขณะประชาชนเริ่มทยอยลุกขึ้นยืน เตรียมพร้อมยุติการชุมนุม หลังมีการขึ้นป้ายข้อความขนาดใหญ่แจ้งว่า "กลับบ้านแล้วพบกันใหม่"

เยาวชนปลดแอก บี้ 'ประยุทธ์' ต้องลาออก

ขณะที่ เยาวชนปลดแอก โพสต์เฟซบุ๊กประกาศยุติการชุมนุม "วันนี้แล้ว! การถอยเดียวของ พล.อ.ประยุทธ์คือต้องลาออกเท่านั้น เวลานี้พลังของมวลชนนั้นไม่อาจหยุดยั้งได้อีกต่อไป เราคือชะตาที่ศักดินาไม่อาจเลี่ยง การชุมนุมของประชาชนผู้รักในประชาธิปไตยลุกฮือขึ้นแล้วทั่วประเทศ หลายล้านคนได้ออกมาบนท้องถนน

ทางเดียวที่จะหยุดการเรียกร้องครั้งนี้ได้คือการรับข้อเรียกร้องจากประชาชนทั้ง 3 ข้อเท่านั้นคือ

1.พล.อ.ประยุทธ์และองคาพยพต้องออกไป! เข้ามาอย่างไม่ถูกต้อง บริหารอย่างล้มเหลว เศรษฐกิจพังพินาศตั้งแต่รัฐประหารเข้ามา ซ้ำยังทำให้ความเหลื่อมล้ำของประเทศสูงขึ้นเรื่อยๆ และสิ่งสุดท้ายที่ทำให้รัฐนี้หมดความชอบธรรมโดยสิ้นเชิง คือการสลายการชุมนุมซึ่งกว่าครึ่งเป็นนักเรียนและเยาวชน! ซ้ำไม่ได้มีท่าทีว่าจะชุมนุมข้ามคืน แต่รัฐกลับเลือกใช้วิธีที่รุนแรง จนทำให้เด็กเล็กโดนฉีดน้ำไปด้วย!

2.เปิดทางให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชน! รัฐธรรมนูญ 60 คือกติกาที่บิดเบี้ยว เราจะไม่สามารถเดินหน้าประเทศต่อได้เลย หากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังคงอยู่ มีแต่จะพาประเทศถอยหลังลงคลอง ย้อนกลับไปหลายสิบปี

3.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้กลับมาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างสง่างาม ตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย ไม่มีการขยายอำนาจที่ล้นเกินไปกว่าระบอบประชาธิปไตย!

"นี่ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางออกทางเดียวที่จะแก้ความบิดเบี้ยวของกฎ กติกาและคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทย เพื่อให้ประเทศไทยกลับมาอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่กษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ" เฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอก ระบุ