คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณที่ นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ อดีต ส.ส.จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย เตรียมสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐว่า เรื่องนี้ไม่เป็นอะไร ถือเป็นเรื่องธรรมดาคนที่ยังอยู่ก็ยังอยู่ต่อไป และนายพรศักดิ์ ก็ไม่ได้เป็นส.ส.ในปัจจุบัน ยืนยันไม่ได้เกิดจากปัญหาความขัดเเย้งภายในพรรค ซึ่งเจ้าตัวได้เเจ้งมาว่าเป็นเรื่องของคดีความที่ติดตัวอยู่ 

ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าการที่ ส.ส.ทุกๆ พรรคที่ย้ายไปนั้นมักจะเป็นเรื่องของการเอาคดีความมาเป็นข้อต่อรอง ซึ่งต้องไปถามอีกฝั่งว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ ในเมื่อมีการย้ายฝั่งเเล้วคดีที่มีอยู่ก็หลุด อาจจะไม่ใช่เรื่องธรรมดา แต่ถือว่าเป็นธรรมดาของยุคนี้ที่มีการใช้คดีความมาต่อรอง จึงตั้งคำถามในเรื่องความถูกต้องตามหลักกระบวนการความยุติธรรม และความเสมอภาคหรือไม่ 

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะมาดูเรื่องทีมเศรษฐกิจด้วยตัวเอง คุณหญิงสุดารัตน์ มองว่า หลังผ่านการเลือกตั้งไปวันนี้ ทีมเศรษฐกิจก็ทีมเดิม นายกฯก็คนเดิม 5 ปีที่ผ่านมายังไม่สามารถแกไขปัญหาได้เลย และสิ่งที่แตกต่างก็คือช่วงนั้นมี ม.44 แต่ขณะนี้ไม่มี ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่าตอนที่มี ม.44 ไม่ได้ใช้ ม.44 ทำให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนกับรากฐานเศรษฐกิจที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ดังนั้นวันนี้ส่วนตัวก็ยังมองไม่ออกว่าความสามารถของนายกและทีมเศรษฐกิจคนเดิมจะดีกว่าเก่าอย่างไร ทั้งนี้ยังไม่ขอตำนิและขอเอาใจช่วยประชาชนพร้อมรอดูผลงาน 

เมื่อถามถึง กรณีคดีความของ ส.ส.กทม.พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดจงใจปกปิดการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน คุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่า ยังไม่มีการวางแผนในการวางตัวบุคคลแทน นายพลภูมิแต่อย่างใด วันนี้มีแต่ทางที่ต้องให้กำลังใจ และช่วยเหลือด้านคดีความให้ถึงที่สุดยังไม่มองว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งต้องดูแลคนของเพื่อไทยให้ดีที่สุดแม้ว่าจะไม่มีอำนาจพิเศษอย่างฝ่ายรัฐบาล แต่ก็ยังหวังในกระบวนการยุติธรรม