ไม่พบผลการค้นหา
2 ผู้บริหารหนุ่มใหญ่จัดงานทอล์กโชว์การกุศล ‘BoB Talk MaruT Teach พูดไม่เข้าหู’ นำเสนอแง่มุมที่เป็นประโยชน์ของการ ‘พูดไม่เข้าหู’ พร้อมนำรายได้ทั้งหมด 300,000 บาท บริจาคให้โรงพยาบาล โรงเรียน และวัด

เมื่อ 1 กันยายนที่ผ่านมา ‘อนุชาติ พิรุณธนาไพศาล’ และ ‘มารุต บูรณะเศรษฐกุล’ สองผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทเครือใหญ่ ร่วมกันจัดงานทอล์กโชว์การกุศลในนามบุคคลชื่อ ‘BoB Talk MaruT Teach พูดไม่เข้าหู’ ลานชั้น 8 เอสเอฟซีนีมา เซ็นทรัลเวิลด์

มารุตกล่าวประเด็นหลักของการจัดงานว่า การพูดไม่เข้าหูเกิดจากการพูดคุยในประเด็นเดียวกันด้วยเหตุผล หรือวัตถุประสงค์ต่างกัน ยกตัวอย่างกรณีโครงการ ‘ก้าวคนละก้าว’ ของอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม เป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ทว่ากลับได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ด้วยมุมมองที่แตกต่าง การพูดไม่เข้าหูจึงเป็นเรื่องธรรมดา และอาจไม่ใช่การแสดงออกเชิงลบเสมอไป แต่สามารถเป็นการพูดที่มีประโยชน์ได้เช่นกัน

ทางด้าน ‘ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา’ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น แขกรับเชิญพิเศษของงานอธิบายว่า คนเราจำเป็นต้องพูดไม่เข้าหูในบางโอกาส แต่ขณะเดียวกันก็ควรใส่ใจความรู้สึกของผู้ฟัง เช่น พ่อแม่จำเป็นต้องสั่งสอน หรือตักเตือนลูก แต่ไม่ควรตำหนิด้วยการนำลูกไปเปรียบเทียบกับคนอื่นให้เสียกำลังใจ

“ผมคิดว่ามันอยู่ที่ทัศนคติ ผมเคยคุยกับทีมวอลเลย์บอลทีมชาติไทย พวกเขาบอกว่าไม่เคยพูดโทษกันเลยเวลาเสียแต้ม ทุกคนให้กำลังใจกัน ทีมชาติไทยดูแล้วเล่นสนุก เพราะแพ้ก็ยังหัวเราะ ไม่โทษกัน การทำงายภายในองค์กรก็ควรชมเชย และให้กำลังใจกันมากกว่าการกล่าวโทษกัน และเคารพผู้ทำงานทุกระดับเช่นเดียวกับทีมวอลเลย์บอล” ณัฐกิตติ์แนะนำ

adver 2.jpg

อนุชาติแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า การพูดเรื่องใดๆ จำเป็นต้องยึดมั่นในความจริง เพราะหากโกหกครั้งหนึ่งก็จำเป็นต้องจำว่าโกหกไว้ว่าอย่างไร เพื่อให้โกหกต่อไปได้ การพูดความจริงตรงๆ จะทำให้เกิดความสบายใจในระยะยาว และการพูดไม่เข้าหูอาจไม่ใช่สิ่งไม่ดีเสมอไป เพียงแต่อาจเป็นการพูดที่ไม่ถูกใจผู้ฟังเท่านั้น

แขกรับเชิญอีกรายหนึ่งคือ ‘ประสงค์ รุ่งสมัยทอง’ ที่ปรึกษาประธานกรรมการบริหารด้านความรู้สึก ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเล่าแง่มุมของการพูดไม่เข้าหูที่มีประโยชน์ด้วยการยกตัวอย่างประสบการณ์ส่วนตัวว่า เมื่อ 2 ปีก่อนเกิดความไม่พอใจที่แพทย์ตำหนิว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิตในปัจจุบันเหมือนการฆ่าตัวตายทุกวัน เนื่องจากตรวจพบระดับไตรกรีเซอไรด์ น้ำตาล และความดันสูงเกินปกติ นอกจากนั้น แพทย์ยังให้จินตนาการอีกว่าหากเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้นจะเป็นอย่างไร

อย่างไรก็ตาม คำพูดของแพทย์ได้ทำให้ประสงค์ใคร่ครวญว่า หากเสียชีวิตไปจะเป็นการอกตัญญูต่อพ่อ แม่ รวมถึงเป็นการขาดความรับผิดชอบต่อลูกทั้งสามและภรรยา จึงตัดสินใจเริ่มกลับมาดูแลตัวเองด้วยการกินอาหารให้ถูกต้อง งดอาหารที่ผ่านกรรมวิธีการทอด ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ ส่งผลให้ลดน้ำหนักได้ 20 กิโลกรัมภายใน 3 เดือนแรกกระทั่งแพทย์อนุญาตให้หยุดยาที่กินอยู่ได้ในเวลาต่อมา

สำหรับความเป็นมาของการจัดงานมารุตกล่าวว่า เขาตั้งใจให้เพื่อน พี่ น้องมาทำบุญร่วมกัน ทำสิ่งดีๆ และเกิดความสุขด้วย จึงจัดทอล์กโชว์ให้ได้ทั้งความสนุกจากงาน และความสุขจากการทำบุญ

อนุชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า ทอล์กโชว์เกิดจากความต้องการทำสิ่งดีๆ เพื่อแบ่งปันให้กับสังคม “เราเป็นคนที่มีความฝัน แต่เราไม่ได้อยากทำเพื่อตัวเราเอง เราอยากทำเพื่อสังคม”

adver 1.jpg

สำหรับรายได้จากการจัดทอล์กโชว์ ‘BoB Talk MaruT Teach พูดไม่เข้าหู’ ทั้งหมดรวมแล้ว 282,110 บาท ซึ่งอนุชาติและมารุตสมทบทุนส่วนตัวเพิ่มให้ยอดเป็น 300,000 บาท และจะนำเงินทั้งหมดไปบริจาคให้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงเรียนบ้านบนเขาแก่งเรียง และวัดป่าญาณรังษี โดยไม่หักค่าใช้จ่าย