วันนี้ (13 พ.ย.) เป็นการเปิดให้ตอบคำถาม 4+6 ข้อของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. แต่จะบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ท่านออกมาตั้งคำถามของประชาชนโดยคำถามที่ถามในรอบนี้นั้นทุกคนสามารถไปให้คำตอบได้ แสดงความคิดเห็นได้ หรืออาจเขียนข้อเสนอแนะเพิ่มเติมความคิดเห็นก็ได้อย่างเป็นอิสระ และเปิดกว้าง โดยอยากให้ช่วยกันคิด ช่วยกันแสดงออกมาตามช่องทางนี้

แต่ดูเหมือนว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่นายกฯได้ออกมาถามประชาชน หลายครั้งการที่ประชาชนสงสัยว่าเมื่อมีการตอบคำถามแล้วจะถูกนำไปปรับปรุงจริงหรือ? แล้วสิ่งที่ประชาชนอยากถามนายกฯคืออะไร? ไปหาคำตอบในคำถามพร้อมๆกัน

ถ้าจะถามประชาชนดีที่สุด คือ "การเลือกตั้ง"

ผู้สื่อข่าววอยซ์ทีวีได้พูดคุยกับ นายรังสิมันต์ โรม จาก กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย กล่าวว่ายังไม่ตัดสินใจว่าจะไปตอบคำถามพล.อ.ประยุทธ์ในรอบนี้หรือไม่ เหตุเพราะว่าในรอบที่ผ่านมา 4 คำถามที่ได้ไปร่วมตอบ ยังไม่รู้ว่านำไปสู่อะไร นอกจากรัฐบาลเลือกหยิบคำตอบคนที่เห็นด้วยออกมาประชาสัมพันธ์เพียงเท่านั้น

รังสิมันต์ ชี้ว่าคำถามส่วนมากมีลักษณะชี้นำเพราะเป็นการถามแบบ "ใช่-ไม่"เป็นการถามเพื่อดูปฏิกิริยาของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลมากกกว่าการหวังนำผลลัพธ์ไปปรับปรุง คิดว่าการออกไปตอบคำถามในครั้งนี้ก็จะไม่ได้ช่วยทำให้สถานการณ์ภายในประเทศดีขึ้น สิ่งที่จะสามารถวัดคำตอบของประชาชนที่มีตามระบอบประชาธิปไตยที่ดีที่สุดก็คือ "การเลือกตั้ง"

หากดูจากแนวโน้มของคำถามรังสิมันต์ คิดว่ามีความเป็นไปได้ที่คสช.พยายามจะสืบทอดอำนาจ เพราะตลอดเวลาการปกครองประเทศมากว่า 3 ปี คสช.สร้าง2มาตรฐานในสังคมโดยการกำจัดคู่แข่งทางการเมืองและมุ่งเน้นการควบคุมอำนาจเบ็ดเสร็จ ซึ่งปัจจุบันคสช.ยังไม่มั่นใจในเสถียรภาพการเมืองหากกลับไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งสั่นคลอนความมั่นคงของผู้มีอำนาจ

รังสิมันต์ กล่าวว่าปฏิเสธไม่ได้ที่พล.อ.ประยุทธ์นั้นต้องการจะเป็นนายกฯต่อไป แต่ถ้าหากประเมินการสืบทอดอำนาจของคสช.จะยิ่งน่าเป็นห่วง รังสิมันต์ประเมินผลว่าดูตกต่ำลงทุกด้านทั้งเรื่องสิทธิมนุษยชน เศรษฐกิจ อย่างล่าสุดประเด็นเหมืองอัคราที่การใช้อำนาจตามม.44 อาจจะทำให้ประเทศชาติเสียค่าโง่อีกด้วย

ดังนั้นสิ่งที่รังสิมันต์อยากถามให้ชัดเจนและเป็นคำถามกลับไปสู่คสช.ก็คือ "พล.อ.ประยุทธ์จะให้เลือกตั้งเมื่อไหร่ กำหนดใช้ชัดเจน" เพราะคำสัญญาที่บอกว่าจะเลือกตั้งพฤศจิกายน 2561 นั้นไม่เพียงพอ เพราะที่ผ่านมาคสช.ก็จะหาปัจจัยมาเลื่อนไปอีกเรื่อยๆ สิ่งที่คสช.ควรทำตอนนี้ก็คือการเปิดให้มีบรรยากาศผ่อนคลายทางการเมืองทั้งพรรคการเมืองและประชาชน ไม่ใช่ให้เคลื่อนไหวได้พรรคที่ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็น "พรรคนอมินีทหาร"เท่านั้น