วันที่ 16 ธ.ค. 2565 อันวาร์ สาและ อดีต ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือลาออกต่อนายทะเบียนสมาชิปพรรคประชาธิปัตย์ ให้มีผลในวันเดียวกันนี้ พร้อมชี้แจงเหตุผลมาในหนังสือ มีใจความว่า
“เมื่อปี 2544 มีพรรคการเมืองที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาใหม่และได้นำเสนอนโยบายด้วยวิธีคิดที่แปลกใหม่ทำให้เป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชน จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์ที่มักจะประกาศด้วยความภาคภูมิใจจนน่าจะเป็นสูตรสำเร็จว่า เป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่ ผลิตนักการเมืองที่มีชื่อเสียงมาแล้วหลายคนต้องประสบต่อการพ่ายแพ้การเลือกตั้งทั่วไปในปีนี้เอง
กระผมเองเป็นคนปัตตานี จึงมีความคิดไม่แตกต่างจากคนภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัดคือเลื่อมใสและศรัทธาในอุดมการณ์ของพรรคที่บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งได้ให้ไว้ จึงได้เสนอตัวลงสมัครและได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เมื่อปี 2548 ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับพรรคมา 7 ปี พรรคก็ยังพ่ายแพ้การเลือกตั้งทั่วไปอย่างต่อเนื่อง
ผมเองก็เฝ้าดูด้วยความวิตกกังวลและคิดว่าคณะผู้บริหารของพรรคคงกำลังคิดหาทางแก้ไข จึงเฝ้ารอด้วยความอดทนโดยที่ไม่เคยแสดงความคิดเห็นใดๆ ดังเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว การเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดเมื่อปี 2562 พรรคพ่ายแพ้อย่างยับเยิน จากเดิมที่เคยมี ส.ส. 161 คน เหลือเพียง 52 คน เป็นที่น่าตกใจและน่ากังวลเป็นอย่างมาก
กระผมเองได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเป็นรองเลขาธิการพรรค ซึ่งมีหน้าที่อย่างชัดเจนคือการช่วยคิดช่วยทำ ในสิ่งที่ถูกที่ควรเพื่อให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศได้เห็นว่า พรรคได้สำนึกผิดในสิ่งที่ได้กระทำไปในอดีตแล้ว และจะขอโอกาสที่จะกลับมายืนเคียงกับประชาชนอีก ผมจึงได้ทุ่มเทเสนอแนวทางการแก้ไขปรับปรุงพรรคด้วยวิธีคิด ‘ทำในสิ่งถูกให้เป็นถูก ผิดให้เป็นผิด’
โดยเริ่มจากการนำประเด็นต่างๆ ที่สื่อและสังคมข้องใจสู่ที่ประชุมพรรคให้ผู้บริหารหาทางแก้ไข แต่ไม่เป็นผล ผมจึงต้องหาวิธีนำเสนอใหม่เป็นเอกสารไปเก็บเอาไว้ที่พรรคเพื่อให้มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐานอีกทั้งยังได้เตือนว่า หากผู้บริหารไม่สนใจแก้ไขจะมีสมาชิกทยอยลาออกจากพรรค ซึ่งสุดท้ายก็เป็นความจริงว่า ได้ลาออกไปกว่า 30 คนแล้ว
วันนี้กระผม อันวาร์ สาและ ส.ส. ปัตตานีที่เคยระบุในเอกสารที่ยื่นต่อพรรคว่า เคยถูกผู้ทรงอิทธิพลของพรรคเสนอว่าไม่ควรส่งลงสมัครอีกเพราะผลโพลแจ้งว่า จะแพ้ แต่สุดท้ายกระผมก็ชนะอย่าง ต่อเนื่องและเป็น ส.ส. ถึงสมัยของพรรคประชาธิปัตย์ ขอลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเหตุผลเดิมที่ ได้ระบุไว้ในเอกสารที่ยื่นต่อพรรคเอาไว้หลายฉบับว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนเดิม อุดมการณ์เดิมของพรรคนั้น ต้องทำ ต้องปฏิบัติ ไม่ใช่ ‘ดีแต่พูด’ แล้วจะทำให้ประชาชนเชื่อ
และจากการเสนอข่าวของสื่อล่าสุดว่า มีการล่ารายชื่อกันเพื่อจะปลดผู้บริหารนั้น ทำให้พรรคเสียหายมากแล้ว ผมจึงไม่ขอแสดงความเห็นใดๆ ในเอกสารการลาออกของผมนอกจากจะขอโอกาสเตือนเป็นครั้งสุดท้ายว่า เลิกโกหกบิดเบือน ควรต้องยืนอยู่บนความเป็นจริงอะไรที่ทำผิดไปแล้วก็ควรขอโทษพี่น้องประชาชนดังเช่นผู้ทรงอิทธิพลได้เคยประกาศขอโทษไปแล้วเมื่อไม่นานที่สงขลา
ขอให้พระเจ้าคุ้มครองเพื่อนๆ ที่เป็นคนดี และจะยังอยู่ในพรรคต่อไปให้พบแต่สิ่งที่ดีงาม”
ทั้งนี้ มีรายงานว่า อันวาร์ ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแล้ว โดยจะเปิดตัวกับพรรคอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ธ.ค. นี้