ไม่พบผลการค้นหา
ทีมข่าวของสื่อตุรกีถูกตัดสินจำคุก 2 เดือน หลังใช้โดรนถ่ายภาพรัฐสภา แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เมียนมาอาจโยงคดีนี้กับเรื่องการรายงานข่าวโรฮิงญาในรัฐยะไข่

​ศาลกรุงเนปิดอว์ของเมียนมาตัดสินจำคุก 2 เดือน แก่ทีมข่าวของสำนักข่าว TRT World สำนักข่าวตุรกี ได้แก่ ผู้สื่อข่าวชาวสิงคโปร์ 1 คน ผู้สื่อข่าวชาวมาเลเซีย 1 คน ฟิกเซอร์ชาวพม่า 1 คน คนขับรถชาวพม่า 1 คน จากกรณีที่พยายามให้โดรนถ่ายภาพมุมสูงบริเวณรัฐสภาของเมียนมาโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ผู้สื่อข่าวต่างชาติจะระบุว่า พวกเขาได้รับวีซ่าผู้สื่อข่าวอย่างถูกต้อง และชี้แจงแผนการถ่ายทำกับเจ้าหน้าที่ไว้ล่วงหน้าแล้ว

นายอ่อง นายง์ โซ ผู้สื่อข่าวและฟิกเซอร์ชาวพม่าที่อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนเมียนมามานานกล่าวว่า พวกเขารู้มาตั้งแต่ต้นว่า ถูกตั้งข้อหาว่ามีความผิดตามมาตรา 8 ว่าด้วยกฏหมายการนำเข้าส่งออก ซึ่งทนายความของจำเลยระบุว่า เป็นข้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย เพราะกฎหมายไม่ได้ระบุว่า ห้ามนำเข้าโดรน แต่พอมาถึงศาลแล้ว พวกเขาเพิ่งรู้ว่า ถูกตั้งข้อหามาตรา 10 ว่าด้วยกฎหมายเครื่องบินของเมียนมาใช้มาตั้งแต่ปี 1934 ที่ยังเป็นอาณานิยมอังกฤษ

นอกจากนี้ ยังเปิดเผยว่า เขาถูกสอบสวนเกี่ยวกับการนำโดรนมาใช้ รวมถึงเรื่องที่เขาเดินทางไปที่รัฐกะฉิ่น รัฐฉาน และรัฐยะไข่ด้วย ก่อนหน้านี้ สื่อเมียนมารายงานว่า หลังทีมข่าวทั้ง 4 คนถูกจับกุม ตำรวจควบคุมตัวผู้สื่อข่าวต่างชาติ 2 คนไว้ที่สถานีตำรวจ ส่วนผู้สื่อข่าวและคนขับรถชาวพม่าถูกคุมขังในเรือนจำในกรุงเนปิดอว์ รวมถึงบุกค้นบ้านในนครย่างกุ้งของนายอ่อง นายง์ โซ และยึดเอกสาร ยูเอสบี ไดรฟ์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกอื่นๆ พร้อมบอกกับครอบครัวของนายอ่อง นายง์ โซ ว่า เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว และครอบครัวกับทนายความก็ไม่สามารถเข้าพบตัวจำเลยได้

คดีนี้ทำให้หลายฝ่ายออกมาวิจารณ์ว่า เสรีภาพสื่อของเมียนมายังคงถูกจำกัด แม้จะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยแล้ว เนื่องจากการไม่อนุญาตให้จำเลยพบทนายความก่อนขึ้นศาลเป็นกระบวนการดำเนินคดีที่ไม่ถูกต้อง

นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสงสัยว่า รัฐบาลเมียนมาพยายามปราบปรามสื่อที่เข้าไปในรายงานสถานการณ์ในรัฐยะไข่ รวมถึงสื่อต่างชาติ ก่อนหน้านี้ นางอองซาน ซูจี มุขมนตรีแห่งรัฐเคยตำหนิรัฐมนตรีตุรกีว่า เผยแพร่ข้อมูลปลอมเกี่ยวกับสถานการณ์ของชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ที่มีผู้ไม่ประสงค์ดีปล่อยออกมา โดยมุ่งหวังที่จะสร้างความวุ่นวายขึ้นในชุมชนต่างๆ และเมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศอื่น รัฐมนตรีตุรกีจึงได้ลบข้อมูลดังกล่าวไปจากสื่อโซเชียลของตัวเอง

ภาพ: Facebook / Free Aung Naing Soe