วันที่ 5 ก.พ. อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ปฏิเสธการตอบคำถามถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมยื่นร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย พ.ศ. …. โดยระบุสั้นๆ เพียงว่า เป็นเรื่องของทางรัฐสภา ขอเอาเรื่องกระทรวงมหาดไทยก่อน
ส่วนกระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้รัฐมนตรีในรัฐบาลเศรษฐา 1 ที่เริ่มมีกระแสข่าวมาอีกครั้ง อนุทิน ย้อนถามกลับสื่อว่า เขย่าให้แน่นขึ้นหรือ บางทีของบางอย่างไม่เข้าที่เข้าทางก็ต้องเขย่าให้แน่นขึ้น ตนคิดว่าฟังนายกรัฐมนตรีก็ชัดเจนแล้ว ในวันรับประทานอาหารค่ำพรรคร่วมรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งนายกรัฐมนตรียืนยันชัดเจนว่าไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี และการปรับคณะรัฐมนตรีขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีคนเดียว ก็ชัดเจนไม่ต้องไปแปลงคำอื่นแล้ว แน่นอนว่าทุกอย่างเวลาเราจัดอะไรไว้ เวลาล่วงเลยไประยะหนึ่งก็ต้องเขย่าให้เข้าที่ แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเปลี่ยนเอาของเก่าออก เอาของใหม่เข้ามาแทน ซึ่งนี่ตนเพียงแต่พูดตามที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ไว้ คนทำงานจะได้สบายใจ ทำงานไปไม่ต้องกังวล
เมื่อถามย้ำในช่วงท้ายว่า จะไม่มีการสลับกระทรวงกันใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวย้ำว่า ภูมิใจไทยไม่มี
อนุทิน กล่าวถึงการแก้ไขหนี้นอกระบบในขณะนี้ ว่าได้ดำเนินการไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งไม่ใช่ภารกิจของกระทรวงมหาดไทยเพียงกระทรวงเดียว แต่ได้มีการบูรณาการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการคลัง และสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งการให้จัดตลาดนัดแก้หนี้ ซึ่งทำให้กระทรวงมหาดไทยปฏิบัติงานได้ง่ายขึ้น ทำให้นายอำเภอหรือตำรวจ ลงไปแก้หนี้ แต่ปิดท้ายโดยให้กระทรวงการคลังมาร่วมแก้หนี้นอกระบบด้วย เมื่อกระทรวงการคลังเข้ามาก็จะมีสถาบันการเงินของรัฐเข้ามา ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก ซึ่งต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรี
อนุทิน ยังระบุอีกว่า หากปล่อยให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้ เขาคุยกันโดยไม่หาทางแก้ปัญหาให้เขา ก็จะเป็นการประวิงเวลาออกไป ซึ่งสถาบันการเงินของรัฐ จะนำเงินเข้ามาช่วยเหลือทดแทนในส่วนของมูลหนี้ได้ ทำให้สามารถปิดปัญหาได้ ซึ่งทั่วประเทศจะดำเนินการในลักษณะนี้ ฝ่ายปกครอง นายอำเภอ ผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ ตำรวจ อัยกาย และเจ้าหนี้ ลูกหนี้ สุดท้ายสถาบันการเงิน คือ ธนาคารจะมี 3 ธนาคารหลักคือ ออมสิน กรุงไทย และ ธกส.
เมื่อถามว่า การลงพื้นที่สำรวจตลาดนัดแก้หนี้ มีความเห็นจากประชาชนอย่างไรบ้าง อนุทิน กล่าวว่า ได้รับฟังความเห็นของประชาชนทุกคน บางคนมีภารกิจนิดเดียว แต่ไปสร้างหนี้สินไว้มา ไปแก้หนี้ให้คนอื่น ไปซื้อของฟุ่มเฟือย ไปค้ำประกันหนี้ให้กับผู้อื่น ซึ่งทางฝ่ายปกครองได้ทำความเข้าใจกับประชาชน ว่าไม่ควรทำในลักษณะนี้ เนื่องจากมีกฎหมายบังคับหากไปเซ็นค้ำประกันให้ใคร ก็จะถือว่าเป็นลูกหนี้ไปด้วย ย้ำว่าอย่าไปหลงเชื่ออะไรง่ายๆ