ไม่พบผลการค้นหา
‘มิกิ พรพรรณ สมุทรโคจร’ ภรรยานักแสดงดัง ‘จ๊อบ นิธิ’ ยอมรับพิษโควิด-19 สร้างความเสียหายหนักสุด ในรอบ 20 ปี ของการทำธุรกิจโรงแรม สนามกอล์ฟ และการขายอสังหาริมทรัพย์ เตรียมปรับรูปแบบธุรกิจ มองกลุ่มเป้าหมายใหม่ เพื่อพร้อมรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจ หลังคลายล็อกดาวน์

หลังจากนักแสดงอารมณ์ดี ตั๊ก บริบูรณ์ จันทร์เรือง เปิดเผยเรื่องราวการสู้ชีวิตกับพิษโควิด-19 ที่ทำให้ธุรกิจโรงแรม สนามกอล์ฟ และการขายบ้านและที่ดิน ของ ‘มิกิ พรพรรณ สมุทรโคจร’ ภรรยานักแสดงดัง ‘จ๊อบ นิธิ’ ต้องหยุดชะงักรายได้เท่ากับศูนย์ พร้อมลูกน้องที่ต้องดูแลหลายร้อยชีวิต ผ่านคลิปวิดีโอในโลกออนไลน์

มิกิ พรพรรณ

ทีมข่าว วอยซ์ออนไลน์ ได้พูดคุยถึงเส้นทาง การปรับตัวธุรกิจ และความพร้อมหากภาครัฐคลายล็อกดาวน์ กับ ‘มิกิ พรพรรณ สมุทรโคจร’ เจ้าของธุรกิจโรงแรมรอยัลฮิลล์ รีสอร์ท แอนด์สปา, สนามกอล์ฟรอยัลฮิลล์ และ อสังหาริมทรัพย์ ขายบ้านและที่ดิน ที่เธอไม่ยอมแพ้กับปัญหา กับพิษโควิด-19 แม้รายได้จากธุรกิจจะเป็นศูนย์ แต่ก็ไม่มีการปลดพนักงาน แก้ปัญหาให้ลูกน้องกว่า 400 ชีวิต ได้ทำงานตามความถนัด เพื่อหารายได้เสริม

‘มิกิ พรพรรณ’ เล่าให้ฟังว่าธุรกิจโรงแรมเริ่มปิดตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน รวมทั้งสนามกอล์ฟที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ตามนโยบายของรัฐ ซึ่งปกติแล้วงานโรงแรมจะเน้นในรูปแบบการสัมนา การจัดเลี้ยง งานประชุม ในส่วนของโรงแรม มีพนักงานกว่า 200 คน ส่วนสนามกอลฟ์ 100 กว่าคน รวมแล้วเบ็ดเสร็จมี 400 กว่าคน หลังต้องหยุดกิจการชั่วคราว รายได้พนักงานเหลือเพียงจากการชดเชยของประกันสังคม พนักงานบางส่วนกลับบ้านเพื่อลดค่าครองชีพ แต่ก็ยังมีพนักงานส่วนใหญ่ที่ยังอยู่ การช่วยเหลือพนักงานของเธอนั้น พนักงานคนไหนที่กู้เงินกองทุน ก็จะช่วยหยุดพักชำระหนี้ทั้งต้นทั้งดอก และคอยดูแลเรื่องอาหาร แม้จะไม่มีงานทำในช่วงนี้ แต่สามารถเข้ามาทานอาหารที่ครัวพนักงานได้ตลอด แต่ต้องลงชื่อล่วงหน้าเพื่อจะได้เตรียมอาหารให้พอจำนวนคน พนักงานบางส่วนที่มีหน้าที่ดูแลพื้นที่ก็ใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์ ปลูกผักสวนครัว เลี้ยงไก่ ทำโรงเพาะเห็ด เพื่อนำมาขายและใช้รับประทาน

เธอบอกว่า เพิ่งทำเฟสแรกไปและได้ผลผลิตออกมา ซึ่งก็วางแผนจะทำเฟส 2 เพราะมองว่าหลังกลับมาเปิดกิจการ ลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการคงยังไม่มาก เพื่อจะได้ให้พนักงานที่ต้องดูแลได้มีรายได้บ้าง และมีผลผลิตเก็บไปเพื่อใช้ดำรงชีวิต ก็ได้ปรึกษาผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องการเกษตร นำความรู้มาสอนพนักงาน และใช้พื้นที่ว่างในรีสอร์ทแบ่งแปลง ให้พนักงาน ซึ่งน่าจะพอสร้างรายได้ได้บ้างในช่วงที่รายได้ของทุกคนลดลง

มิกิ พรพรรณมิกิ พรพรรณมิกิ พรพรรณ

ในส่วนบริษัท ในทีมก็มาปรึกษามองหาโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ อย่าง การรับฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อ และตอนนี้กำลังทดลองเครื่องสแกนหน้าพร้อมวัดอุณหภูมิ แทนการสแกนนิ้วเข้างาน ก็เป็นโอกาสใหม่ทางธุรกิจที่กำลังเริ่มทำ ให้ทีมเซลส์ช่วยกันขาย ใครขายได้ก็จะมีรายได้พิเศษ

มิกิ พรพรรณ ในฐานะผู้นำของลูกน้องหลายร้อยชีวิต เธอยอมรับว่าโชคดีที่พนักงานทุกคนเข้าใจสถานการณ์ เเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

ปกติธุรกิจเราเปิดมา 20 กว่าปี ไม่เคยปิด อย่างน้อยลูกค้าน้อย น้ำท่วม มันก็ยังพอมีรายได้บ้าง แต่ครั้งนี้โดนปิดไปเลยมันก็ทำให้เราไม่มีรายได้เลยในช่วงแรก มันก็เหนื่อย เรามีแต่รายจ่าย เงินเดือน ค่าไฟ ค่าน้ำ มันก็เยอะอยู่ เราเป็นหัวหน้าที่ตรงไปตรงตรงมา ลูกน้องเราก็เข้าใจ เราเคยฝันกันไว้ว่า ทำให้โรงแรมเป็นสถานที่เป็นที่ท่องเที่ยวได้ด้วย มาดูแปลงผักเก็บผัก แต่ช่วงที่เรารับลูกค้าเยอะๆ พวกเรางานล้นมือ มันไม่มีเวลาทำอะไรแบบนี้ มันก็เป็นโอกาสหนึ่งอย่างน้อยไม่ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ แต่เราได้เห็นความรักความสามัคคี ความร่วมมืออร่วมใจของทุกคน ที่ทำให้สิ่งที่เราฝันเกิดขึ้น เราทำธุรกิจ เราต้องไปให้ได้ถึงจะท้อ แต่เราก็ต้องสู้ เราก็มีครอบครัว พนักงานที่เราดูแลกันมา ก็อยากให้ผ่านไปได้พร้อมๆ กันทั้งหมด”

เมื่อถามถึงการเตรียมพร้อม หากภาครัฐ คลายล็อกดาวน์ ในวันที่ 17 พ.ค. ‘มิกิ พรพรรณ’ เปิดเผยว่าเธอได้วางแผนไว้กับธุรกิจแล้ว มองหากลุ่มเป้าหมายใหม่จากกลุ่มเดิม พร้อมเตรียมอบรมพนักงานให้คำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัย การดูแลป้องกันโควิด-19

“ในส่วนสนามกอล์ฟ เราวางแผนจะเปิดวันที่ 1 มิ.ย. ตอนนี้ก็มีการคุยกันว่าเราจะทำยังไง ในการดูแลบริการลูกค้า วางมาตรการในการดูแลป้องโควิด-19 ตามขั้นตอน วัดไข้ ลงทะเบียนการใช้บริการ การเว้นระยะห่าง และใส่หน้ากากอนามัย มันก็เหนื่อยสำหรับเรา ที่เปิดกิจการมาระยะแรกอาจจะยังไม่มีลูกค้า อย่าง โรงแรมที่เน้นในเรื่องการจัดสัมมนา ข้อมูลจากฝ่ายขายก็แจ้งมาว่าหลายๆ หน่วยงาน งบการออกสัมมนาก็ถูกดึงไปใช้ในโควิดหมด เราก็ต้องมองหากลุ่มเป้าหมายใหม่ ไปเน้นกลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มครอบครัว ประชาสัมพันธ์ไปเน้นกลุ่มนี้ และทำผลิตภัณฑ์ใหม่ มองว่าอาจทำศูนย์เรียนรู้ กำลังคิดและวางแผนเพื่อที่จะสร้างโอกาสจากธุรกิจที่เรามีทรัพยากรตรงนี้อยู่แล้วมาปรับปรุงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ เพื่อจะรองรับตลาดในอนาคต แต่ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำ คือตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปให้หมด อะไรที่ตัดได้ตัดไปก่อนเพื่อลดค่าใช้จ่ายขององค์กร และสามารถอยู่ได้ในระยะที่ยาว เพราะเราก็ไม่รู้ว่า โควิด-19 จะจบเมื่อไหร่”

ทั้งนี้ปกติรายได้ของธุรกิจ โรงแรม สนามกอล์ฟ จะอยู่ที่ประมาณ  8-10 ล้าน ต่อเดือน ซึ่งต้องปรับตัวและปรับแผนธุรกิจใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้  โดย ‘มิกิ พรพรรณ’ ยังฝากถึงภาครัฐ ออกมาตรการการดูแลโควิด-19 ให้กับธุรกิจโรงแรม ได้สามารถเปิดกิจการอย่างปลอดภัย

"เข้าใจว่าเกิดโรคระบาด ก็อยากให้รัฐบาลออกมาตรการการดูแลโควิด-19 ให้กับธุรกิจโรงแรม ได้สามารถเปิดกิจการอย่างปลอดภัย และเลี้ยงดูธุรกิจไปได้ โดยหลังจากมีข่าวออกไปก็ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจเข้ามา ลูกค้าหลายคนเห็นข่าวก็ถามไถ่ เตรียมกลับมาใช้บริการ มันก็ทำให้เรามีกำลังใจเพราะเราก็กังวล ถ้าเปิดกิจการจะมีลูกค้ามาใช้บริการไหม"

มิกิ พรพรรณ
  • พรพรรณ - นิธิ สมุทรโคจร

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอบอกว่า ทำให้เข้าใจว่าชีวิตมันไม่มีอะไรแน่นอน

“เราได้เรียนรู้ว่า ชีวิตมันไม่มีอะไรแน่นอน เพราะจริงๆ เราต้องเตรียมพร้อม ตั้งสติ ในทุกๆ อย่างที่คิด มันมีวันที่สุข วันที่ทุกข์แต่ถ้าเราบริหารจัดการอารมณ์เราได้ เราก็ค่อยๆ แก้ปัญหา และสามารถผ่านวิกฤตไปได้ พี่จ๊อบ นิธิ ก็คอยให้กำลังใจกันและกัน ช่วยคิดช่วยแก้ปัญหา เพราะเขาก็ทำรายการท่องเที่ยว”

ภาพจากอินสตาแกรม : tuck_boriboon1979,พรพรรณ สมุทรโคจร