ไม่พบผลการค้นหา
'ชัยชนะ' ผิดหวังรัฐบาลบริหารประเทศ 2 เดือน ยังแก้ปากท้องไม่ได้ จวก 'เศรษฐา' สอบตกได้แค่ 3/10 คะแนน เป็นได้แค่ไกด์ทัวร์-ผู้นำแฟชัน

วันที่ 9 พ.ย. ที่อาคารรัฐสภา ชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของรัฐบาลหลังเข้ามาบริหารประเทศ 2 เดือน โดยระบุว่า 2 เดือนในการทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของ เศรษฐา ทวีสิน นายก​รัฐมนตรี​ สิ่งที่น่าผิดหวัง คือไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องเศรษฐกิจของประเทศได้ ประชาชนยังอยู่ในยุคที่ข้าวของมีราคาแพง อีกทั้งปัญหาการพนันออนไลน์ ทุกวันนี้ก็ยังมีข่าวปัญหาอาชญากรรมทางสังคมที่เกิดขึ้นจากการพนันออนไลน์มากมาย และสุดท้ายการแก้ไขปัญหายาเสพติดก็ล้มเหลว 

ส่วนการปรับลดราคาพลังงาน ก็เหมือนเป็นการปรับลดแบบไฟไหม้ฟาง ระยะสั้น แก้ปัญหาไม่ตรงจุด และการทำงานของนายกฯ 2 เดือนที่ผ่านมา ก็เปรียบเสมือนนายกฯ เป็นหัวหน้าทัวร์ศูนย์เหรียญ ส่วนใหญ่จะท่องเที่ยวในต่างประเทศมากกว่า และดูว่าการเดินทางต่างๆ ก็ไม่มีเป้าหมาย 

ชัยชนะ ยังกล่าวต่อด้วยว่า มีรัฐมนตรีแค่ 3 คน ที่สอบผ่าน คือ 

1.อนุทิน ชาญ​วี​ร​กูล​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ออกมาแสดงจุดยืนในเรื่องของสังคมหลายเรื่อง ​ทั้งเรื่องเปิดผับถึงตีสี่ 

2. ชาดา ไทยเศรษฐ์​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย วางแผนแก้ไขปัญหาเรื่องผู้มีอิทธิพลอย่างมีระบบ 

3. ร.อ.ธรรมนัส พรหม​เผ่า​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้กับประชาชนและดูแลพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ 

นี่เป็นสิ่งที่รัฐบาลเศรษฐาต้องกลับไปทบทวน เพราะรัฐมนตรีใน ครม. 35 คนสอบผ่านแค่ 3 คน ที่เหลือยังไม่มีผลงานประดับชัดเจน 

ชัยชนะ ย้ำว่า การเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ใช่การเดินแบบแฟชั่นโชว์หรือเป็นไกด์ทัวร์ จุดสำคัญต้องมีวุฒิภาวะ ซึ่งนายกรัฐมนตรียังไม่มี โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่จูบมือ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถือว่าขาดภาวะความเป็นผู้นำ และ

ขอให้คะแนนนายกฯ แค่ 3 คะแนนจากเต็ม 10 และ 3 คะแนนที่ให้คือ 1.นายกไหว้สวย 2.ไปเที่ยวทำให้คนรู้จักประเทศไทยมากขึ้นและ 3 คือนายกแต่งตัวแฟชั่น

ส่วนความคืบหน้าการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชัยชนะ เปิดเผยว่า จะเป็นของขวัญปีให้ของพรรคประชาธิปัตย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการเตรียมการประชุม กก.บห. ชุดรักษาการ เพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่ เลือกหัวหน้าพรรค 

ชัยชนะ ยอมรับว่า เมื่อวันเวลาผ่านไป ทุกฝ่ายพูดคุยกันมากขึ้น ถ้าเรายืนในจุดที่มีอัตตา ไม่คุยกัน ทางออกก็ไม่มี ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เอง เป็นสถาบันทางการเมือง ที่มีทั้งคนรุ่นใหม่ คนรุ่นกลาง และคนรุ่นใหม่ ดังนี้น จะทำอย่างไร ให้คน 3 รุ่นนี้ เชื่อมโยงกันและเข้าใจกันได้อย่างไร ประกอบกับสถานการณ์เมืองไทยอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่าน ประชาธิปัตย์ต้องปรับตัวให้อยู่ในยุคปัจจุบันให้ได้ และเชื่อว่า ปีใหม่นี้ จะได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ ทั้งนี้ การพูดคุยกันภายในพรรค สามารถสามานรอยร้าวได้ประมาณ 60 % แต่ก็เป็นไปในทิศทางที่ดี