ไม่พบผลการค้นหา
เปิดมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ประจำวันที่ 26 มีนาคม 2567 เคาะขยายกรอบระยะเวลาโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 4 พร้อมด้วยเห็นชอบร่างบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-ลาว เพื่อดูแลการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง ครั้งที่ 4

วันนี้ (26 มีนาคม 2567) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติขยายกรอบระยะเวลาการดำเนินโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 4 ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567-2569 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยขอผูกพันงบประมาณข้ามปีสำหรับการดำเนินโครงการฯ กรอบวงเงินงบประมาณจำนวนทั้งสิ้น 5.51 ล้านบาท โดยสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) จะเป็นผู้ขอตั้งงบประมาณเป็นรายปีตามกระบวนการขั้นตอนวิธีการงบประมาณในภาพรวมต่อไป เพื่อให้ครอบคลุมการดำเนินโครงการฯ และไม่กระทบต่อการศึกษาของผู้รับทุนตามสิทธิที่ได้รับ

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศธ. ดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 เพื่อให้นักเรียนที่มีฐานะยากจน เรียนดี และมีความประพฤติดีที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าทั้งสายสามัญและสายอาชีพในทุกอำเภอ/เขตทั่วประเทศมีโอกาสได้รับทุนการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา ปริญญาตรี หรือปริญญาใบแรกทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ แห่งละ 1 ทุนในหลักสูตรสาขาวิชาที่สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นและความต้องการของประเทศ ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในสังคมไทย

รวมทั้งคำนึงถึงการสร้างความเสมอภาคให้เกิดขึ้นแก่ประชากรทุกกลุ่ม เสริมสร้างองค์ความรู้ และศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอันเป็นรากฐานที่เข้มแข็งในการพัฒนาประเทศ ซึ่งปัจจุบัน ศธ. ดำเนินโครงการดังกล่าวแล้ว จำนวน 4 รุ่น มีผู้รับทุน รวมทั้งสิ้น 3,093 คน โดยจากจำนวนนี้มีผู้รับทุน จำนวน 3,088 คน และมีผู้สละสิทธิก่อนรับทุนจำนวน 5 คน โดยปัจจุบันมีผู้สำเร็จการศึกษา จำนวน 2,921 คน ไม่สำเร็จการศึกษา จำนวน 161 คน และอยู่ระหว่างการศึกษา รุ่นที่ 4 จำนวน 6 คน 

และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้ผู้รับทุนในรุ่นที่ 4 จำนวน 6 คน ได้รับผลกระทบจากปัญหาด้านสุขภาพ จึงปรับเปลี่ยนจากการศึกษาในต่างประเทศเป็นศึกษาในประเทศ และไม่สามารถสำเร็จการศึกษาได้ตามระยะเวลาที่โครงการ รุ่นที่ 4 กำหนด ในปี 2565 และแม้จะมีงบประมาณเหลือจ่ายเพียงพอต่อการบริหารจัดการโครงการฯ แต่ไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ต่อเนื่องจนผู้รับทุนสำเร็จการศึกษา (ปี 2569) เนื่องจากงบประมาณถูกพับโดยผลของกฎหมาย

ดังนั้น ศธ. จึงจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบการขยายกรอบระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ ดังนั้น เพื่อให้การจัดสรรทุนเกิดความต่อเนื่องและไม่เกิดผลกระทบต่อการศึกษาของผู้รับทุนอีก 6 คน ที่ยังอยู่ระหว่างการศึกษา จึงจำเป็นต้องขออนุมัติขยายกรอบระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ รุ่นที่ 4 เป็นปีงบประมาณพ.ศ. 2567-2569 โดยขอผูกพันงบประมาณข้ามปีสำหรับดำเนินโครงการฯ รุ่นที่ 4 กรอบวงเงินงบประมาณ จำนวน 5.51 ล้านบาท เพื่อให้ครอบคลุมการดำเนินโครงการฯ รุ่น 4 และไม่กระทบต่อการศึกษาของผู้รับทุนตามสิทธิที่ได้รับ รวมทั้งให้มีสถานะรองรับการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนวิธีการงบประมาณต่อไป

นอกจากนี้ี่คณะรัฐมนตรียังมีมติเห็นชอบร่างบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-ลาว เพื่อดูแลการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง ครั้งที่ 4 ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คกก. ร่วมไทย-ลาวฯ ถูกจัดตั้งขึ้นในปี 2547 เพื่อเป็นกลไกสำหรับการปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหืองระหว่างไทย และ สปป. ลาว ตลอดจนกำหนดวิธีการทางเทคนิคที่จำเป็นเพื่อป้องกันตลิ่งและฝั่ง รวมถึงเพื่อรักษาระบบนิเวศวิทยาตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง 

โดยสาระสำคัญเกี่ยวกับประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงร่วมกัน เช่น 

1. การรับรองการปรับปรุงแก้ไขข้อกำหนดมาตรฐานด้านเทคนิคการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง และข้อกำหนดทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับการดูดทรายตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหืองที่มีอยู่เดิม

2. ประเด็นอื่นๆ เช่น (1) การรับทราบผลการตรวจสอบพื้นที่ร่วมกัน โดยเป็นการตรวจสอบความเรียบร้อยของพื้นที่ฝ่ายไทยและ สปป. ลาว บริเวณริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง (2) การรับรองแผนการตรวจสอบพื้นที่ รวม 18 บริเวณ ซึ่งเป็นบริเวณก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งและบริเวณทรายดูด โดยในพื้นที่ของฝั่งไทยครอบคลุมพื้นที่ จังหวัดหนองคาย เชียงราย เลย และอำนาจเจริญ (3) ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคกก. ร่วมไทย-ลาวฯ ครั้งที่ 5 ต่อไป 

ทั้งนี้ ขอให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันปฏิบัติตามเพื่อให้เกิดผลตามที่ตกลงร่วมกันโดยเร็ว