ตุรกีไม่พอใจสวีเดนและฟินแลนด์ที่เคยให้สถานที่พักพิงผู้ลี้ภัยชาวเคิร์ด ที่ทางการตุรกีมองว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายในประเทศของตน รวมถึงการที่ทั้งสองชาติเคยขัดขวางการขายอาวุธแก่ตุรกี ทั้งนี้ สวีเดนและฟินแลนด์จะไม่สามารถเข้าร่วมองค์สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือได้ หากตุรกีซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกปัจจุบันไม่ให้การสนับสนุน
รัสเซียซึ่งถูกทั้งสองชาติระบุว่าเป็นต้นเหตุ ที่ทำให้ประเทศที่เคยเป็นกลางทางการทหารอย่างสวีเดนและฟินแลนด์ตัดสินใจเข้าร่วมองค์สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ มีความพยายามในการต่อต้านการขอเข้าร่วมองค์สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือของทั้งสองชาตินอร์ดิกอย่างรุนแรง เนื่องจากทางรัสเซียมองว่าการเข้าร่วมองค์สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือของทั้งสองชาติ จะเป็นการขยายอิทธิพลของชาติตะวันตกเข้ามาประชิดชายแดนรัสเซีย
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือเปิดเผยว่า ทางสวีเดนได้ยอมตกลงที่จะทบทวนการขอส่งตัวคนร้ายข้ามแดน จากผู้ต้องสงสัยว่าเป็นกลุ่มกองกำลังชาวเคิร์ดกลับไปยังตุรกี และทั้งสวีเดนกับฟินแลนด์จะยกยกเลิกมาตรการการห้ามการขายอาวุธให้แก่ทางตุรกี
ในทางเดียวกัน เรเจป ทายยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี ระบุหลังจากการที่ตุรกียอมสนับสนุนการขอเข้าร่วมองค์สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือว่า ทางตุรกี “ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว” จากทางสวีเดนและฟินแลนด์ หลังจากที่ทั้งสองชาติยื่นขอสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
สโตลเทนเบิร์กระบุว่า จะมีกระบวนการพิจารณาเข้าร่วมองค์สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือให้แก่ทางสวีเดนและฟินแลนด์ “อย่างรวดเร็ว” เนื่องจากทั้งสองชาติมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดกับทางกลุ่มพันธมิตรองค์สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ทั้งนี้ ทั้งสองชาติต้องได้ฉันทานุมัติจากทั้ง 30 ชาติสมาชิกปัจจุบันขององค์สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือจึงจะสามารถเข้าร่วมองค์การได้
หากสวีเดนและฟินแลนด์ได้เป็นสมาชิกองค์สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ สวีเดนจะยุติการเป็นประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดมาตลอดระยะเวลา 200 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ฟินแลนด์เองจะกลับมาต่อต้านรัสเซียหรืออดีตสหภาพโซเวียตอีกครั้ง หลังจากความขื่นขมของการแพ้สงครามต่อสหภาพยุโรปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ที่มา: