รัฐมนตรีช่วยคมนาคม สั่งการท่าเรือฯ เร่งรัดการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 รวมถึงแผนลดจำนวนขนถ่ายสินค้าท่าเรือกรุงเทพฯ ลดความแออัดด้านการจราจร เพื่อนำพื้นที่ไปพัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เชิงพาณิชย์ 

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย หรือ กกท. เร่งรัดงานก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ซึ่งคาดว่าปี 2561 จะมีความชัดเจน หากโครงการนี้ก่อสร้างเสร็จภายใน 5-7 ปี จะเพิ่มประสิทธิภาพการขนถ่ายสินค้าที่ท่าเรือแหลมฉบัง ได้เป็นปีละ 10 ล้านตู้ จากเดิมปีละ 7 ล้านตู้

รัฐมนตรีช่วยคมนาคม ยังสั่งการให้ กทท. ศึกษาแผนลดจำนวนการขนถ่ายสินค้าของท่าเรือกรุงเทพฯ จากปัจจุบันขนถ่ายได้ปีละ 1.5 ล้านตู้ ทำให้การจราจรในพื้นที่ใกล้เคียงติดขัด และเหลือพื้นที่นำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ หรือเป็นพื้นที่สีเขียว รวมทั้งศึกษาเส้นทางเลี่ยงรถบรรทุกสินค้าที่จะเข้าท่าเรือวันละกว่า 10,000 เที่ยว เบื้องต้นจะใช้เส้นทางเชื่อมจากทางพิเศษบูรพาวิถี ไปยังนิคมอุตสาหกรรมบริเวณถนนพระรามสอง เพื่อลดความหนาแน่นของการจราจร 

นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ กกท. หารือกรมเจ้าท่า พิจารณาการโอนย้ายท่าเรือบริเวณชายฝั่งทะเล ที่ยังไม่มีผู้บริหารจัดการ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือศาลาลอย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา , ท่าเรือคลองใหญ่ จังหวัดตราด , ท่าเรือคลองวาฬ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และท่าเรือนครพนม จังหวัดนครพนม มาให้การ กกท. บริหารจัดการเอง เพื่อกระจายจุดขนส่งสินค้าได้มากขึ้น

ส่วนปัญหาการเบิกจ่ายค่าล่วงเวลาของพนักงาน กกท. รัฐมนตรีช่วยคมนาคม ให้แนวคิดปรับปรุงระบบการบริหารจัดการให้ดีขึ้น

​