ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางไปสักการะพระแก้วมรกต ที่วัดพระแก้ว อำเภอเมืองเชียงราย และกราบสักการะพระธรรมราชานุวัตร เจ้าคณะภาคและเจ้าอาวาสวัดพระแก้ว โดยพระธรรมราชานุวัตร ได้มอบสร้อยข้อมือลูกปัดหยก และพระแก้วมรกตจำลองให้กับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับให้พร ขอให้มีความมั่นคงมั่งคั่งและยังยืนเหมือนกับสร้อยข้อมือลูกปัดหยกที่มอบให้

ขณะเดียวกัน มีเครือข่ายเกษตรกรชาวนาเพื่อการพาณิชย์ และอุตสาหกรรมแห่งชาติ จากจังหวัดเชียงใหม่ ซึ้งผูกผ้าพันคอ ที่มีข้อความว่า "Friend of Uttama" พร้อมกางร่มที่มีข้อความว่า "จะไปกั๊กบอกฮักลุงตู่" และ "กองหนุนลุงตู่เชียงใหม่-สันกำแพง" เดินทางมาให้กำลังใจ

โดยเครือข่ายกลุ่มเกษตรกร ขอให้นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่เชียงใหม่ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ รับปาก พร้อม ยืนยันว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะเดินทางไปทุกพื้นที่ และทุกพื้นที่จะต้องไม่มีความแตกแยก ไม่มีการแบ่งแยก หากเกิดความไม่เข้าใจ ก็ต้องมีการอธิบาย และเชื่อว่าน่าจะดีขึ้น พร้อมกล่าวว่า ดีใจและตื้นตันใจที่มาให้การต้อนรับ

จากนั้นนายกฯ เดินทางมาเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 และประชุมคณะรัฐมนตรี ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย โดยใช้รถยนต์ตามปกติ ขณะที่คณะรัฐมนตรีคนอื่นๆ นั่งรถทัวร์ กรุงเทพ - แม่สอด ของบริษัท ขนส่ง จำกัด เข้าร่วมประชุม โดยมีผู้บริหารมหาวิทยาลัย อาจารย์ นักศึกษา และ นักศึกษาแลกเปลี่ยนจากประเทศจีน ให้การต้อนรับ โดยตัวแทนนักศึกษาร่วมร้องเพลง "สะพาน" พร้อมโชว์เป่าแซกโซโฟน โดย สิบเอกสุรเชษฐ์ ใจปิง นักศึกษาคณะดุริยางคศาสตร์ เมื่อขับร้องจบ นายกฯ ขอให้เป่าบทเพลงพระราชนิพนธ์ "ยามเย็น" ให้ฟัง ก่อนที่จะขอให้ขึ้นไปเป่าเพลงให้ฟัง ในช่วงพักรับประทานอาหารเที่ยงอีกรอบ 

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากตัวแทนนักศึกษา ให้ตั้งใจเรียน ช่วยกันทำประเทศให้เกิดการเปลี่ยนไปในทางที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ 20 ปี จากนั้นได้เยี่ยมชมส่วนจัดแสดงผลงานของจังหวัด และมหาวิทยาลัย เช่น ผลิตภัณฑ์จากศูนย์ความเป็นเลิศด้านสมุนไพร และการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งนายกฯ ขอให้ส่งเสริมการปลูกสมุนไพร เพื่อนำมาผลิตเป็นสินค้า เพิ่มมูลค่าให้กับเกษตกร รวมถึงอยากให้หน่วยงานหาพืชอื่นเพื่อปลูกทดแทนใบยาสูบ 

นอกจากนี้ ยังเยี่ยมชมการพัฒนาสถานีขนสินค้า และศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ ต้นแบบในการพัฒนาและบริหารโครงสร้างพื้นฐาน และเป็นพื้นฐาน สำหรับการสร้างเส้นทางขนส่งตามแนวเหนือใต้