ไม่พบผลการค้นหา
'วราวุธ ชี้ ไม่เกินความคาดหมาย การเมืองหลังเอเปควุ่น เหตุเหลือ 4 เดือนครบวาระ บอกไม่ยุ่งวิวาทะ 'ภท.-ปชป.' เชื่อผู้ใหญ่ 2 พรรคคุยกันได้

วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีมีการประเมินสถานการณ์ทางการเมือง ช่วงหลังการประชุมเอเปคจะวุ่นวาย ว่า ไม่ใช่เป็นเรื่องอะไรที่นอกเหนือความคาดหมายเพราะคาดกันว่าจะไปตั้งแต่ตอนตั้งรัฐบาลเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 แล้ว แต่นี่อยู่มาได้ 3 ปีกว่านั้น เรียกว่าอยู่เกินความคาดหมายของหลายฝ่ายมาเกือบเท่าตัว และที่สำคัญเราก็เห็นกันอยู่ว่าจุดสิ้นสุดคือวันที่ 23 มีนาคม 2566 ดังนั้นจากนี้ไปหลังเอเปค เหลือเวลาอีกเพียง 3-4 เดือนเท่านั้น จึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีการเคลื่อนไหวทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล หรือแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเองก็เป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีการยักย้ายถ่ายเทของสมาชิกพรรค

เมื่อถามถึง ความขัดแย้งระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน จะสามารถเป็นกาวใจได้หรือไม่ วราวุธ กล่าวว่า ตนคิดว่าการทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล หากเป็นอะไรที่จะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เราในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องช่วยประคับประคองให้เรือลำนี้ไปให้ถึงฝั่ง แต่คงต้องดูเสียก่อนว่าทั้งสองฝ่ายนั้นตกลงกันไม่ได้ถึงขนาดกับจะต้องขอให้มีมือที่สามเข้าไปช่วยเจรจาหรือไม่ เพราะถ้ายังไม่ถึงเวลานั้นอยู่ๆเข้าไปก็จะหาว่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น เกรงว่าจะเป็นการไม่ควร อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าผู้ใหญ่กับผู้ใหญ่ของแต่ละพรรค คงพูดคุยกันอยู่เป็นประจำตามปกติ


ขอ ปชช.ลอย 1 กระทง 1 ครอบครัว

วราวุธ กล่าวถึงการขอความร่วมมือประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทง ว่า จุดประสงค์ของการลอยกระทงคือ การขอขมาพระแม่คงคาที่ได้ให้ชีวิตให้ประเทศไทยมีความสมบูรณ์มาจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นในช่วงเทศกาลลอยกระทง จึงขอความกรุณาประชาชน อย่าทำให้แม่น้ำเต็มไปด้วยกระทงที่ไม่สามารถย่อยสลายได้

ทั้งนี้เทศกาลลอยกระทงช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั้น ลดลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ต้องขอบคุณคนไทยที่ร่วมมือกัน และในค่ำคืนนี้ ถ้าเป็นไปได้ขอความกรุณาให้เป็นการลอยแบบ 1 กระทง 1 ครอบครัว หรือ 1 กลุ่มเพื่อน 1 กระทง ซึ่งสามารถลดปริมาณกระทงได้ทั้งประเทศ เพราะท้ายที่สุดกระทงที่ทางราชการไม่สามารถเก็บได้จะกลายเป็นขยะลอยลงสู่ทะเล ซึ่งขณะนี้กระทรวง ทส. พยายามอย่างเต็มที่ ไม่ให้มีขยะในทะเลเพิ่มขึ้น 

วราวุธ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามมาตรการการเก็บขยะในช่วงเช้าของวันที่ 9 พฤศจิกายน ทางกระทรวง ทส. ได้ติดตั้งบูมดักขยะบริเวณปากแม่น้ำสายหลักหลาย 10 สายของประเทศไทยไปแล้ว คาดว่าบูมดักกับขยะที่ติดตั้งไปจะสามารถไม่ปล่อยขยะไปอยู่ที่อ่าวไทย และเชื่อว่าในแต่ละท้องที่จะมีหน่วยงานต่างๆ รับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วย