ไม่พบผลการค้นหา
วงเสวนาหวังยกสนามบินสุวรรณภูมิขึ้นแท่น 1 ใน 3 ของโลก 'เป็นไปได้' หากทำตามแผนแม่บทเดิม รุมถล่ม ทอท.ต้นตอปัญหา ไม่พัฒนาสุวรรณภูมิ

งานเสวนา "สุวรรณภูมิ สนามบิน 1 ใน 3 ของโลก ฝันหรือเป็นจริง?" จัดโดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย วันนี้ (18 ต.ค.)

ระหว่างงานเสวนา พล.อ.ต.ม.ล.ประกิตติ เกษมสันต์ เลขาธิการสภาสถาปนิก ระบุว่า ปัญหาทางยุทธศาสตร์ การกำหนดเป้าหมาย และไม่ทำตามแผนแม่บท ส่งผลให้สนามบินสุวรรณภูมิไม่สามารถขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกได้ โดยสนามบินสุวรรณภูมิในปัจจุบันเปรียบเหมือนอยู่ในอันดับที่ 2 ของอำเภอเท่านั้น ดังจะเห็นตัวอย่างได้จากการยื่นประมูลก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟสสองที่มีผู้ยื่นเสนอน้อยรายและปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามมา ทั้งที่เป็นงานระดับโลก 

ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ ผู้อำนวยการวิจัย TDRI ระบุว่า ปัญหาสนามบินสุวรรณภูมิสะท้อนถึงปัญหาระดับประเทศ โดยเฉพาะการบริหารงานของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) ที่ขาดการพัฒนาและปรับปรุงข้อบกพร่องต่างๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ธุรกิจสนามบินไม่ใช่ธุรกิจเชิงพาณิชย์ ไม่ใช่ธุรกิจที่มีการแข่งขัน ทำให้ ทอท.ไม่จำเป็นต้องปรับปรุงพัฒนาใดๆ เพราะมีกำไรถึงปีละ 3 หมื่นล้านบาทอยู่แล้ว ซึ่งกำไรที่ได้เป็นผลมาจากการท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ไม่ได้เกิดจากการพัฒนาปรับปรุงของ ทอท.

ดร.เดือนเด่น เชื่อว่า สนามบินสุวรรณภูมิจะสามารถก้าวไปสู่การเป็นสนามบินอันดับ 1 ใน 3 ของโลกได้ หากกระทรวงการคลังเอาจริงเอาจัง และนอกจาก ทอท.ที่เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงแล้ว สำนักงานการบินพลเรือน ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแล ทอท.ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย 

ส่วนเรื่องของดิวตี้ฟรีนั้น สนามบินในเมืองไทยยังมีปัญหาเรื่องของสัมปทานที่ผูกขาดเพียงเจ้าเดียว ทำให้เกิดกำไรเพียงร้อยละ 17 ต่างจากสนามบินในต่างประเทศที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการหลายรายเข้ามารับสัมปทานซึ่งสร้างกำไรได้ถึงร้อยละ 40 

นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระบุว่า การพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิต้องคำนึงถึงผู้โดยสารเป็นสำคัญ โดยยกสนามบินชางงีของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสนามบินอันดับหนึ่งของโลกเป็นต้นแบบการพัฒนา โดยจะต้องลงลึกในรายละเอียดอย่างจริงจัง ซึ่งนอกจากการบริการ การอำนวยความสะดวกในทุกด้านแล้ว เรื่องของรันเวย์ และลานจอดก็มีความสำคัญและต้องพัฒนา เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวให้ได้ 70 ล้านคนภายใน 10 ปีข้างหน้า

นายต่อตระกูล ยมนาค ผู้แทนโครงการ CoSt ระบุว่า โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเป็นหนึ่งในสองโครงการที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้มีการติดตามตรวจสอบ แต่กลับกลายเป็นว่า ทอท.ให้ความมือในการเปิดเผยข้อมูลน้อยที่สุด และที่ผ่านมา ทอท.ไม่สามารถตอบคำถามในประเด็นปัญหาต่างๆ ได้ โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้างในเฟส 2 ทำให้มีความกังวลว่าการลงทุนกว่า 1.4 แสนล้านบาทของ ทอท.จะสูญเปล่า

ด้านนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการ กทม.ระบุว่า สนามบินสุวรรณภูมิสามารถขึ้นเป็นอันดับ 1 ใน 3 ของโลกได้ หากดำเนินการตามแผนแม่บทเดิม คือมี 2 เทอร์มินอล ด้านเหนือและด้านใต้ เริ่มจากการขยายเทอร์มินอลเดิม ไม่ใช่ 3 เทอร์มินอล เพื่อรองรับผู้โดยสาร 120 ล้านคนต่อปี แต่หากดำเนินการตามแนวคิดของ ทอท.จะเกิดความเสียหายใหญ่หลวง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: