นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดชมรม “ลมวิเศษ” และ สายรักข้อมืออัจฉริยะสำหรับผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง โดยร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดกิจกรรมขึ้นเนื่องในวันโรคถุงลมโป่งพองโลก ประจำปี 2561 ตามที่องค์การอนามัยโลกและองค์การโรคถุงลมโป่งพองแห่งโลก กำหนดให้วันพุธที่ 3 ของเดือน พ.ย.ทุกปี เป็นวันถุงลมโป่งพองโลก
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองประมาณปีละ 1,500,000 คน ในจำนวนนี้พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวปีละประมาณ 6,000 คน หรือ เฉลี่ยวันละ 16 คน ถือว่าโรคดังกล่าวเป็นโรคร้ายแรงถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทย ควรมีมาตรการป้องกันและรักษาโรคนี้โดยเฉพาะ เพราะเมื่อผู้ป่วยป่วยด้วยโรคดังกล่าวแล้ว ส่งผลถึงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยที่แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล การเสียโอกาสในการทำงาน และที่สำคัญอีกหนึ่งปัญหาที่พบคือการที่ผู้ป่วยนั้นได้เข้ารับการวินิจฉัยโรคที่เป็นไปอย่างล่าช้า
ดังนั้นหากผู้ป่วยหรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้เข้าถึงการรักษาหรือเข้ารับการตรวจวินิจฉัยโรคได้ทันท่วงที ก็จะสามทรถที่จะรับมือกับโรคดังกล่าวได้หากตรวจพบ ซึ่งทางการแพทย์นั้นพบว่าผู้ป่วยด้วยโรคถุงลมโป่งพองนั้นส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยง่าย ซึ่งเมื่อมาตรวจกับแพทย์แล้วก็จะพบว่าปอดนั้นถูกทำลายหรือเสื่อมสภาพไปและไม่สามารถที่จะฟื้นคืนสภาพได้
"การจัดตั้งชมรมลมวิเศษ ขึ้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาที่รวดเร็วแล้ว และจัดทำกำไลวิเศษ หรือสายรักข้อมืออัจฉริยะขึ้นสำหรับผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นของผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลพื้นฐานประเภทชื่อ นามสกุล ที่อยู่ และการติดต่อของคนในครอบครัว ข้อมูลพื้นฐานของโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยใช้บริการเป็นประจำ รวมทั้งโรคที่ผู้ป่วยรับการดูแลรักษาอยู่ ซึ่งหากผู้ป่วยเกิดเหตุฉุกเฉินเพียงแค่สแกน คิวอาร์โคด ในกำไลวิเศษเส้นนี้ก็จะทราบถึงข้อมูลต่างๆ ทั้งหมดของผู้ป่วยทันที" ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าว
นอกจากนี้ กำไลวิเศษมีข้อมูลการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ทั้งคลิปสั้นในเรื่องของวิธีการพ่นยาขยายหลอดลมแบบฉุกเฉิน การปั้มหัวใจฟื้นคืนชีพ รวมทั้งยังคงมีการจัดทำฐานข้อมูลในเรื่องของพินัยกรรมชีวิต หรือเจตนารมณ์ในการรักษาเมื่อผู้ป่วยหมดสติ ซึ่งทั้งหมดทางชมรมลมวิเศษได้ประสานการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ในการที่จะเป็นเครื่องมือที่จะสนับสนุนให้ผู้ป่วยและครอบครัวของผู้ป่วยทั้งประเทศนั้นสามารถที่จะใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น