ไม่พบผลการค้นหา
‘พรรคเพื่อไทย’ ปราศรัยมีนบุรี โปรยนโยบายมีนบุรีโมเดล ศูนย์กลางตะวันออก ยกประชาชนเป็นเจ้านาย ล้างหนี้ ‘เติมเงินกระเป๋าตุง’

พรรคเพื่อไทย ปักหมุดปราศรัยที่เขตมีนบุรี นำโดยแกนนำพรรค อาทิ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายปลอดประสพ สุรัสดี นายนพดล ปัทมะ นายชูศักดิ์ ศิรินิล พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต ทั้งนี้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้สไกป์จากแดนอีสาน จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมกล่าวทักทายชาวมีนบุรี โดยมีประชาชนเดินทางมาฟังปราศรัยจำนวนมาก 

‘สุดารัตน์’ อ้อน ‘ตัวอยู่อีสานแต่หัวใจอยู่มีน’

คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ขอโทษที่ไม่ได้มาพบปะประชาชนชาวมีนบุรี เพราะติดภารกิจหาเสียงที่ภาคอีสาน ก่อนย้ำว่าแต่หัวใจอยู่ที่มีนบุรีแล้ว สำหรับพื้นที่แห่งนี้พบว่ามีปัญหาหลายด้าน รวมถึงการขยับขยายพัฒนาพื้นที่วันนี้หากเป็นรัฐบาล พรรคเราจะแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งในเรื่องปากท้อง พลิกฟื้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น และสร้างความเจริญให้กับคนมีนบุรี

สำหรับที่ผ่านมา 5 ปี ประชาชนประสบปัญหาเงินในกระเป๋าไม่มี เราขอเวลาไม่นาน ภายใน 6 เดือน เราจะเติมเงินกระเป๋าให้ตุง ด้วยนโยบายต่างๆ และการเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่าชาวมีนบุรีจะสามารถช่วยทำให้พรรคเพื่อไทยประสบความสำเร็จได้

“ถ้าอยากให้หน่อย ให้เพื่อไทยชนะ ขอให้พี่น้องทุกคนเลือกเพื่อไทย และร่วมกันสู้กับส.ว. ในวันที่ 24 มีนาคม เรามาจับมือกันสู้ เพื่ออนาคตที่สดใส” ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าว

5555.jpg


‘ชัชชาติ’ ปักธง ‘มีนบุรีโมเดล’ ศูนย์กลางตะวันออก

นายชัชชาติ กล่าวว่า พื้นที่แห่งนี้คือพื้นสำคัญเป็นจุดยุทธศาสตร์ของกทม. สำหรับอนาคตเขตมีนบุรี ที่จะมีรถไฟฟ้า 2 เส้น ที่เชื่อมโยงนำคนเข้าเมือง แต่ส่วนตัวมองว่าอนาคตจะพัฒนาให้มีนบุรีเป็นศูนย์กลาง ต้องเอางานมาให้คนมีนบุรี ก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในพื้นที ขณะที่รถเมล์ต้องมีการปฏิรูปรถเมล์ทั้งระบบ เพื่อไทยจะทำให้พี่น้องเดินทางสะดวกขึ้น พอการเดินทางสะดวกก็จะทำให้คนมาจับจ่ายใช้สอย สร้างอนาคตให้พี่น้องประชาชน

อีกทั้งมองว่ามีนบุรีไม่ใช่เมืองชายขอบของกทม. เราต้องเป็นศูนย์กลางของฝั่งตะวันออก พัฒนาผังเมืองเชื่อมโยงกันอีอีซี ดึงคนเข้ามาทำงานที่มีนบุรี โดยเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยสามารถทำได้ ประชาชนต้องออกมาเลือกฝ่ายประชาธิปไตยอย่างถล่มทลาย เลือกพรรคที่มีวิสัยทัศย์ มาบริหารประเทศ

อีกหนึ่งปัญหาคือภาคเอกชนไม่มีความมั่นใจที่จะลงทุน ต่างชาติก็ไม่กล้าเพราะมีการออกกฎหมายต่างๆ ส่วนนักลงทุนไทยก็ออกไปลงทุนต่างประเทศ ทำให้ไม่มีการจ้างงาน ลดการทำโอที ส่วนโรงงานก็มีการผลิตน้อยลง กลายเป็นผลกระทบที่เป็นลูกโซ่ ตลอดจนสร้างความเดือดร้อนให้ผู้ค้าขาย เพราะประชาชนขาดกำลังซื้อ

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ คนตัวเล็กตัวน้อยก็ขาดการดูแล หลังจากลงพื้นที่มีนบุรีนอกจากประเด็นเศรษฐกิจแล้วยังมีปัญหาไล่ที่ หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เราจะเร่งเยียวมาปัญหาเหล่านี้

สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนต้องเลือกระหว่างเผด็จการและประชาธิปไตย ซึ่งพรรคเพื่อไทยชัดเจนอยู่แล้วในความเป็นหัวหอกฝ่ายประชาธิปไตย ส่วนบางพรรคต้องชัดเจนไปเลยว่าจะร่วมกับฝ่ายอำนาจสืบทอดอำนาจต่อไปหรือไม่


ชูศักดิ์ อัดรัฐบาลออกกติกาเลือกตั้งสับสน 

นายชูศักดิ์ กล่าวว่าเขาบอกจะบอกคืนความสุข แต่คนที่มีความสุขคือพวกเขา ผ่านการบริหารโดยไม่มีฝ่ายค้าน ออกกฎหมายและใช้อำนาจ อีกทั้งยังเลื่อนเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นผ่านมา 5 ปี ประชาชนต้องทนทุกข์ไม่มีความสุข ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ คือออกกติกาต้องทำให้ประชาชนสับสนที่สุด และทำให้พรรคเพื่อไทยเสียเปรียบ อีกทั้งยังเพิ่มสิทธิให้สมาชิกวุฒิสภาโหวตนายกรัฐมนตรี ดังนั้นวันที่ 24 มีนาคม ประชาชนต้องออกมาเลือกอย่างถล่มลาย เพื่อสู้กับ 250 เสียงที่เขามี และหยุดการสืบทอดอำนาจ

53751058_10156851872649985_5038232092610134016_n.jpg


‘ปลอดประสพ’ เปิดนโยบายน้ำ ดักคอ ‘ประยุทธ์’ อย่าอ้างไม่ใช่สืบทอดอำนาจ

นายปลอดประสพ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญนี้ ที่ร่างมาไม่ต่างจากสัปปะรด ทำลายหลักการประชาธิปไตย ที่เปิดช่องให้มีการทำลายการเมืองแบบรัฐสภา ส่วนกรณีการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา ก็ส่อถึงการจ้องสืบทอดอำนาจ แถมยังมีการออกกติกาเองและมีอำนาจมาตรา 44 ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ออกมาบอกว่าไม่ต้องการสืบทอดอำนาจ แต่เป็นการสืบทอดเจตนารมณ์นั้น ขอพูดชัดๆ ว่าคือการสืบทอดเจตนารมณ์เผด็จการ

สำหรับการพัฒนาคลองแสนแสบนั้น รัฐบาลมีการอนุมัติงบเพื่อคลองแสนแสบ 7 พันล้าน เมื่อลงพื้นที่สำรวจแล้วพบว่ามีการสร้างถนนจักรยาน ปิดบ้านคนทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน อยากถามว่าใช้สมองหรือเอาอะไรคิด ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจะยกเลิกให้หมด และจะมีการพัฒนาให้มีการเชื่อมต่อให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม รวมถึงการบำบัดน้ำเสีย 

ส่วนประเด็นการท่องเที่ยวนั้น ปลอดประสพ ระบุว่า ต้องมีการจัดวิสาหกิจชุมชนหาบเร่ เพื่อพลิกฟื้นประชาชนตัวเล็กตัวน้อยได้ทำมาหากิน ได้มีโอกาส ไม่ใช่เอื้อแต่นายทุนใหญ่ร่ำรวยอยู่ฝ่ายเดียว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้กลับมา 

โดยภายใน 30 วันแรกจะมีการตั้งกรรมการ สแกนปัญหาเศรษฐกิจที่สะสมมาตลอดห้าปี เพื่อแก้ปัญหาโดยผ่านการรับรู้ของประชาชน 

เพื่อไทย


‘กิตติรัตน์’ วอนเลือกเพื่อไทย ‘อาสาแก้พิษเศรษฐกิจ’

นายกิตติรัตน์ ได้กล่าวถึงเรื่องเศรษฐกิจ ว่า มั่นใจบุคลากรของพรรคเพื่อไทยมีความสามารถ และทุกคนพร้อมแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่สะสมมานาน ด้วยนโยบายต่างๆ ที่จะขับเคลื่อนเพื่อก้าวข้ามวิกฤต เราศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย และจะไม่ละเลยประชาชนที่ถือว่าเป็นนายของเรา พร้อมรับฟังปัญหาทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เราไม่ต้องการอยู่ต่อเพื่อสร้างความล้มเหลว 


‘นพดล’ เล็งสังคายนา ‘การศึกษา’

นายนพดล กล่าวถึงประเด็นเรื่องการศึกษาว่า ถ้า 24 มีนาคม กาเพื่อไทย ความสุขจะมีมากขึ้นแน่นอน เพราะรู้ว่าพี่น้องกำลังลำบาก ซึ่งพี่น้องมีทางเลือกชัดเจนว่าจะอยู่แบบเดิมหรือจะเลือกเพื่อไทย เพื่อก้าวข้ามความทุกข์ยาก วันนี้ประชาชนไม่มีความมั่นคงในคุณภาพชีวิตเลย ประสบปัญหาหลายอย่าง จนต้องไปหากู้ยืมเงินกลายเป็นหนี้นอกระบบ 

สำหรับเรื่องการศึกษา หลายครอบครัวต้องไปกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา เราจะปลดหนี้ให้กับคนที่ไปกู้ยืมมา ส่วนระบบการศึกษานั้น เราจะเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ที่มีปัญหาหลักคือความยากจนที่ส่งผลให้ลูกหลานไม่มีโอกาสเข้าไปสู่ระบบการศึกษา เราจะทำให้ทุกคนอยากเรียนต้องได้เรียน ผ่านนโยบายเรียนฟรี 15 ปี 

พร้อมเติมเงินเพื่อการศึกษาให้เด็กยากจน ลดภาระให้กับครอบครัว ขณะเดียวกันเราจะพัฒนาศูนย์เด็กออกที่มีมาตรฐาน 20,000 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงการเปิดโรงเรียนออนไลน์ รองรับโลกยุคใหม่ และมีการปฏิรูปการศึกษา ให้ลูกหลานเป็นเจ้านายหุ่นยนต์ เพื่อรองระบอบ พร้อมกันนี้สำหรับเด็กอาชีวะต้องไม่ตกงาน หลายคนต้องได้เป็นเศรษฐี เป็นเถ้าแก่เป็นเจ้าของกิจการ

นอกจากนี้เรายังมีวิสัยทัศน์ จะเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยการยกเว้นวีซ่าสำหรับประเทศที่สำคัญ ผ่านการเจราพร้อมกับตั้งเป้าว่าจะเพิ่มนักเที่ยว 50 ล้านคน 

ในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เรามีโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง แต่รถถังมาเร็วกว่า รถไฟความเร็วสูงเลยไม่เกิดขึ้น เราได้กลับมา นโยบายที่ติดค้างไว้เราจะกลับมาทำให้สำเร็จ