วันที่ 3 ม.ค. ที่อาคารรัฐสภา อัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการฯ นัดแรก ว่าที่ประชุมได้พิจารณาแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆในคณะกรรมาธิการ
โดย ดนุพร ปุณณกันต์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานกรรมาธิการฯ และมีรองประธานคณะกรรมาธิการจากทุกภาคส่วน จำนวน 7 คน ในขณะที่ตำแหน่งโฆษกคณะกรรมาธิการได้มีตัวแทนจากภาคประชาชน ด้วยเช่นกัน ส่วนตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการจะแต่งตั้งในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 10 ม.ค. นี้ โดยจะตั้ง คชาภา ตันเจริญ หรือ 'มดดำ' และ วุฒิธร มิลินทจินดา หรือ 'วู๊ดดี้' นั่งตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ
โดย อัครนันท์ กล่าวว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะเป็นกฎหมายประวัติศาสตร์ของพี่น้องประชาชน โดยเชื่อว่า จะเป็นก้าวแรกที่ทุกคนจะได้ใช้กฎหมายที่มีความเสมอภาคกับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะกลุ่ม LGBTQ+ โดยครั้งนี้รัฐบาลฝ่ายค้านหรือแม้กระทั่งภาคประชาชน มีความร่วมมือกันเป็นอย่างดี โดยเสียง สส.และประชาชนไม่มากพอ เท่ากับเสียงของอินฟลูเอนเซอร์ ผู้มีชื่อเสียงที่เป็น LGBTQ บรรยากาศภายในที่ประชุมนัดแรกเป็นไปด้วยดีไม่มีความขัดแย้ง ทุกคนมีความสุขที่ได้ร่วมกัน แสดงความคิดเห็น เพื่อให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็ว แต่ต้องอยู่บนความรอบคอบ และใช้ได้จริงภายในปี 2567 นี้ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการจะมีการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 10 ม.ค. 2567
ขณะที่ วาดดาว ชุมาพร ตัวแทนภาคประชาชนในการเสนอร่างกฏหมายสมรสเท่าเทียม ได้กล่าวถึงบรรยากาศในที่ประชุมว่าได้เปิดรับความหลากหลายอย่างแท้จริงได้ให้เป็นตัวของตัวเองในการใช้อัตลักษณ์ทางเพศการประชุมได้ โดยเชื่อว่าปรากฏการณ์ครั้งนี้จะเป็นประตูบานสำคัญของความหลากหลายทางเพศและความเป็นธรรมทางเพศที่จะนำไปใช้อีกหลายหน่วยงาน ตนเชื่อว่ากฎหมายสมรสเท่าเทียมจะพิจารณาแล้วเสร็จโดยเร็ว คณะกรรมาธิการอาจจำเป็นต้องเพิ่มวันประชุมในการพิจารณากฎหมายให้ทันตามกรอบระยะเวลาภายใน 60 วัน โดยรู้สึกได้ถึงความจริงจังของการพิจารณากฎหมายของรัฐสภา ที่จะทำให้กฎหมายจากภาคประชาชน เฝ้ารอให้เกิดความเท่าเทียมได้เกิดขึ้นจริง