การถอนตัวของจอห์นสันส่งผลให้ ริชิ ซูนัค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรี เพนนี มอร์แดนท์ ยังคงเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยซูนัคเองมีคะแนนเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.พรรคอนุรักษนิยมนำอยู่เป็นอันดับต้นๆ
จอห์นสันระบุว่า การกลับมาชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกครั้งเป็น “โอกาสที่ดีมาก” และตนจะประสบกับความสำเร็จ และจะสามารถ “กลับมายังถนนดาวนิงในวันศุกร์” นี้ได้อีกครั้ง แต่จอห์นสันระบุว่า เขาควรจะให้ความสำคัญกับ “ความเป็นหนึ่งเดียวกันของพรรคในรัฐสภา” มากกว่า ส่งผลให้ตนตัดสินใจถอนตัวไปลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคในครั้งนี้
การแข่งขันในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ ลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากครองเก้าอี้ผู้นำประเทศมาได้เพียงแค่ 45 วัน ทั้งนี้ การเปิดคูหาเสนอชื่อผู้ท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคจะปิดลงในช่วงบ่ายของวันนี้ (24 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นสหราชอาณาจักร โดยผู้ท้าชิงแต่ละคนต้องอาศัยเสียง ส.ส.ในพรรคสนับสนนุนอย่างน้อย 100 คน เพื่อให้เข้ารอบท้าชิงต่อไป
จากรายงานของ BBC ล่าสุดเปิดเผยว่า ซูนัคมีคำแนนเสียงจาก ส.ส.ในพรรค ที่สนับสนุนให้ท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแล้ว 155 เสียง ในขณะที่มอร์แดนท์มีคะแนนสนับสนุน 25 เสียง และจอห์นสันซึ่งประกาศถอนตัวไปแล้ว มี ส.ส.เปิดเผยว่าพวกตนจะสนับสนุนเขาทั้งสิ้น 54 เสียง อย่างไรก็ดี จอห์นสันอ้างว่าตนมีเสียงสนับสนุน 102 เสียง ทั้งนี้ ไม่ใช่ทุกคนจาก ส.ส.พรรคอนุรักษนิยม 357 คน ที่จะเปิดเผยในทางสาธารณะว่าตนจะสนับสนุนผู้ท้าชิงรายใด
มีโอกาสที่ค่อนข้างแน่ชัดว่า ซูนัคจะกลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสหราชอาณาจักรในช่วงวันจันทร์นี้ และจะมีการประกาศชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่อย่างเป็นทางการในช่วงปลายสัปดาห์นี้ โดยการเลือกตั้งทั่วไปของสหราชอาณาจักร จะมีขึ้นอย่างช้าที่สุดในช่วง ม.ค. 2568 อย่างไรก็ดี สหราชอาณาจักรเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีมา 3 คนในช่วงเวลาปีเดียว ส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อพรรคอนุรักษนิยม ที่อาจจะประกาศให้มีการเลือกตั้งที่เร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิม
จอห์นสันระบุว่า ตนมีแรงจูงใจที่จะลงแข่งในครั้งนี้ เนื่องจาก “ผมนำพรรคของเราไปสู่ชัยชนะจากการเลือกตั้งครั้งใหญ่เมื่อไม่ถึง 2 ปีที่แล้ว และผมเชื่อว่าผมถูกเลือกเพื่อให้เกิดการหลีกเลี่ยงในการเลือกตั้งทั่วไปในตอนนี้” ก่อนกล่าวเสริมว่า “การเลือกตั้งทั่วไปจะเป็นหายนะที่พุ่งกระจายออกมา ในขณะที่รัฐบาลควรจะให้ความใส่ใจอยู่กับแรงกดดันทางเศรษฐกิจ ที่ครอบครัวต่างๆ ทั่วทั้งประเทศกำลังเผชิญหน้ากันอยู่”
จอห์นสันย้ำว่า ตนมีเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.เกินกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ และมันจะเป็นโอกาสที่ดีในการเข้ามาชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น ตนจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกครั้งในวันศุกร์นี้ (28 ต.ค.) “แต่ในวันสุดท้าย ผมได้ข้อสรุปที่น่าเศร้าว่า มันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำ คุณไม่สามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณไม่มีพรรคที่เป็นหนึ่งเดียวกันในรัฐสภา”
จอห์นสันยังได้เปิดเผยอีกว่า ตนได้ติดต่อไปยังซูนัคและมอร์แดนท์เพื่อพูดคุยกันแล้ว เนื่องจากตน “หวังว่าเราจะมาร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์ของชาติ” และตนเชื่อว่าหากตนลงแข่ง ความพยายามของตนจะขัดขวางเรื่องดังกล่าว “ผมเชื่อว่าผมมีข้อเสนออีกมากมาย แต่ผมเกรงว่านี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม” ในการท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกครั้ง
ที่มา: