วันที่ 11 เม.ย. 2565 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 ลงพื้นที่เขตประเวศ สำรวจโรงงานกำจัดขยะมูลฝอยอ่อนนุช และชุมชนร่วมใจอ่อนนุช 86 ที่ปัจจุบันได้รับผิดชอบกระทบด้านกลิ่นจากโรงงานขยะ ชัชชาติเสนอบรรเทาความเดือดร้อนชุมชนเร่งด่วน ย้ำ “ขยะคือทรัพย์สิน” กทม. ต้องนำขยะไปสร้างให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ชัชชาติ กล่าวว่า โรงงานกำจัดขยะมูลฝอยอ่อนนุช เขตประเวศ เป็น 1 ใน 3 โรงงานกำจัดขยะของ กทม. มีขนาด 586 ไร่ มีปริมาณขยะเฉลี่ย 4,000 ตันต่อวัน ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สีน้ำเงินตามกฎหมายผังเมืองรวม กทม. หรือเป็นที่ดินประเภทสถาบันราชการ การสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ อย่างไรก็ตาม พบปัญหาขยะส่งกลิ่นกระทบชุมชนในพื้นที่โดยรอบ เช่น ชุมชนร่วมใจอ่อนนุช 86 และชุมชนร่มไทร ชัชชาติ เสนอ กทม. แก้ปัญหากลิ่นกระทบชุมชนเร่งด่วน เพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนกับประชาชนโดยรอบ
“กทม. ต้องยอมรับว่าเมืองขยายไปแล้ว เพราะฉะนั้นกิจกรรมใดๆ ที่ก่อความเดือดร้อนกับชุมชน ต้องบรรเทาโดยเร่งด่วน จะอ้างว่าโรงงานขยะอยู่มาก่อนไม่ได้ มองว่าเป็นการขยายของเมืองที่ กทม. กำหนดทิศทางเอง มิเช่นนั้นก็ต้องตีเส้นล้อมโรงงานขยะไว้ เพื่อไม่ให้เป็นที่อยู่อาศัย แต่ไม่ใช่ให้ประชาชนเป็นผู้รับผิดชอบ” ชัชชาติกล่าว
ชัชชาติย้ำด้วยว่าขยะคือทรัพย์สินที่เมืองต้องหาแนวทางนำมากลับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและก่อให้เกิดรายได้ โดยสามารถทำควบคู่กับการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง ทั้งนี้ หากสามารถลดงบประมาณจัดเก็บขยะปลายทางได้สำเร็จ กทม. จะสามารถนำงบประมาณที่เหลือไปใช้พัฒนาคุณภาพชีวิตด้านอื่น เช่น พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ เพิ่มสวัสดิการการรักษา และเพิ่มทุนการศึกษาหรือจัดซื้ออุปกรณ์ทันสมัย เป็นต้น
หลังเสร็จสิ้นภารกิจสำรวจโรงงานกำจัดขยะมูลฝอยอ่อนนุชและชุมชนโดยรอบ ชัชชาติเดินหน้าหาเสียงต่อในพื้นที่ชุมชนเฟื่องฟ้า เขตประเวศ จากนั้นมีกำหนดการรดน้ำขอพรเจ้าอาวาสวัดสามัคคีธรรม เขตวังทองหลาง พร้อมหารือกับผู้นำชุมชนเขตวังทองหลางราว 200 คน เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอเชิงนโยบาย เสร็จแล้วเดินทางไปตลาดเตาปูน เขตบางซื่อ พูดคุยกับชาวเขตบางซื่อ และกล่าวนำเสนอนโยบายบนกล่องลังไม้ บริเวณลานกีฬาประชานุกูล รวมลงพื้นที่หาเสียงประจำวันนี้ทั้งสิ้น 3 เขต