ไม่พบผลการค้นหา
2 ชายชาวรัสเซียหนีขึ้นเรือข้ามทะเลแบริ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเกณฑ์ทหารไปรบในยูเครน และเดินทางมาถึงเกาะแห่งหนึ่งของมลรัฐอะแลสกาของสหรัฐฯ สถานที่ที่พวกเขากำลังยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัย

ชายทั้งคู่แอบขึ้นเรือลำเล็กมาถึงพื้นที่แกมเบลล์ เมืองที่มีประชากรอยู่อาศัยประมาณ 600 คน ณ เกาะเซนต์ลอว์เลนซ์ ห่างออกไปจากคาบสมุทรชูคอตกาของไซบีเรีย 70 กิโลเมตร เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย เคอร์ทิส ไซลูค เจ้าหน้าที่ประจำเมือง ระบุกับเว็บไซต์ข่าวว่า ชายทั้งสองแล่นเรือมาจากเมืองอีกีฟคีนอตของรัสเซีย ซึ่งห่างออกไปจากทะเลประมาณ 480 กิโลเมตร 

ทั้งนี้ ทั้งสองได้รับการส่งตัวออกมาจากเกาะด้วยเครื่องบินแล้ว เมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา (5 ต.ค.) โดยชาวบ้านระบุกับผู้สื่อข่าวว่า พวกตนพบกับชายที่ดูเหมือนชาวยุโรป และสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ เดินมาพร้อมกันกับชายที่ดูเหมือนกับจะเป็นชนพื้นเมืองยูปิกในไซบีเรีย

โฆษกกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ กล่าวว่า “บุคคลเหล่านี้ถูกส่งตัวไปยังแองเคอเรจเพื่อตรวจสอบตัวตน ซึ่งรวมถึงกระบวนการคัดกรองและการตรวจสอบ จากนั้นจึงจะมีการดำเนินการตามกฎหมายการเข้าเมืองของสหรัฐฯ ที่บังคับใช้ภายใต้กฎหมายคนเข้าเมืองและการถือสัญชาติ”

มิค ดันลีวี ผู้ว่าการมลรัฐอะแลสกา ระบุว่า “บุคคลสองคนนี้ที่เดินทางมาจากรัสเซียโดยเรือ และถูกควบคุมตัวที่แกมเบลล์… สิ่งที่ผมทราบ คือ พวกเขาอยู่ในแองเคอเรจตอนนี้ ซึ่งกำลังได้รับการดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐบาลกลาง” พร้อมกล่าวเสริมว่า “เราไม่ได้คาดการณ์ว่าจะมีคนหรือกองเรือคนจำนวนมาก เดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เราไม่พบสัญญาณชี้ชัดว่ามันจะเกิดขึ้น ดังนั้นเรื่องนี่อาจเป็นเหตุการณ์เพียงครั้งเดียว”

แดน ซัลลิแวน วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันจากอะแลสกา กล่าวว่า หน่วยงานศุลกากรและการป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (CBP) ยังไม่ได้ตัดสินใจว่า ชาวรัสเซียทั้งสองจะได้รับอนุญาตให้อยู่ในสหรัฐฯ ได้หรือไม่ ซัลลิแวนกล่าวว่าเขาสนับสนุนให้ CBP “มีแผนพร้อมกับหน่วยยามลาดตระเวนชายฝั่ง ในกรณีที่ชาวรัสเซียจำนวนมากหนีไปยังชุมชนช่องแคบแบริ่งในอะแลสกา”

ลิซา เมอร์คาวสกี เพื่อนสมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกันของซัลลิแวนจากอะแลสกา กล่าวว่าเครื่องบินของ CBP ต้องบิน 1,200 กิโลเมตรเพื่อไปยังที่เกิดเหตุ และเมอร์คาวสกียังกล่าวอีกว่า สหรัฐฯ ต้อง “เน้นย้ำถึงความจำเป็น ในการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ในแถบพื้นที่อาร์กติกของสหรัฐฯ” นอกจากนี้ คารินา บอร์เกอร์ โฆษกของเมอร์คาวสกี ระบุกับสำนักข่าว Associated Press ว่า “ชายสัญชาติรัสเซียถูกรายงานว่า พวกเขาหนีเข้ามายังหนึ่งในชุมชนทางชายฝั่งทะเลทางตะวันออกของรัสเซีย เพื่อหลีกเลี่ยงการรับราชการทหารภาคบังคับ”

โฆษกสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี ระบุกับสื่อ Tass ของรัฐบาลรัสเซียว่า พวกตนได้รับแจ้งรายงานชายรัสเซียทั้งสองที่หลบหนีข้ามแดนมาสหรัฐฯ เพื่อหนีการเกณ์ทหาร และพวกตนมีกำหนดการที่จะต่อสายพูดคุยทางโทรศัพท์กับชายทั้งสองแล้ว

ประชาชนในเมืองแกมเบลล์ มีเชื้อชาติที่ใกล้ชิดกันกับชนพื้นเมืองยูปิกในไซบีเรีย มากกว่าชาวอะแลสกาโดยทั่วไป อย่างไรก็ดี การแล่นเรือข้ามทะเลแบริ่งผ่านช่องแคบมายังอะแลสกา เป็นการเดินทางที่อันตรายมาก และมีรายงานการเดินทางข้ามช่องแคบจากรัสเซียมาสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โดยในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา โดยเมื่อปี 2557 มีชายชาวไซบีเรีย 12 คน แล่นเรือข้ามจากฝั่งรัสเซียมายังสหรัฐฯ ทางช่องแคบดังกล่าว นับเป็นการรายงานครั้งแรกในรอบ 14 ปี

ในปี 2491 เจ เอ็ดการ์ ฮูเวอร์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ สั่งห้ามไม่ให้ประชากรจากชุมชนพื้นเมืองเดินทางข้ามผ่านช่องแคบ โดยทางการสหรัฐฯ ตั้งข้อสงสัยว่า ผู้มาเยือนจากรัสเซียบางคนอาจเป็นสายลับสหภาพโซเวียต คำสั่งดังกล่าวถูกเรียกในอีกชื่อว่าเป็นนโยบาย “ม่านน้ำแข็ง” ทั้งนี้ การเดินทางข้ามกลับมาเปิดเป็นปกติอีกครั้ง หลังจากสงครามเย็นสิ้นสุดลง แต่ทางการรัสเซียได้สั่งห้ามการข้ามช่องแคบ หลังจากมีพ่อและลูกชายจมน้ำตายระหว่างเดินทางกลับจากแกมเบลล์ไปยังชายฝั่งไซบีเรีย

ชายชาวรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชายที่ถึงวัยถูกเกณฑ์ทหาร ต่างเดินทางออกจากประเทศ ตั้งแต่ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศระดมกำลังพลเพิ่ม เพื่อสนับสนุนการยกทัพรุกรานยูเครน ที่พบกับความพ่ายแพ้ตลอดช่วงเดือน ก.ย.เป็นต้นมา มีรายงานอีกว่า การเกณฑ์ทหารเริ่มเกิดขึ้นในวงกว้างและรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในหมู่ชุมชนชนบทที่ยากจน และชนกลุ่มน้อยในคอเคซัส มองโกเลีย และไซบีเรีย


ที่มา:

https://www.theguardian.com/us-news/2022/oct/06/alaska-two-russians-flee-military-draft?CMP=Share_iOSApp_Other&fbclid=IwAR0L656JkyTTs8Gjpw4lgZATd5E_dMfer8zlCsLc6zafdL5izOZ2dINds7M