เมื่อวันที่ 21 ก.ค. งานเสวนาทางออกประเทศชาติ โดย 7 พรรคฝ่ายค้านเพื่อประชาชน ครั้งที่ 1 นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การปฏิวัติรัฐประหารเมื่อเดือน พ.ค.2557 ทำให้ชาติบ้านเมืองเสื่อมโทรมทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมมาถึงปัจจุบัน ทำให้ประชาชนเดือดร้อนจำนวนมาก จนแทบจะไม่มีกิน ความเงียบเกิดขึ้นเพราะคนอดทนซึ่งภายใต้ความลำบาก ขณะที่ตัวของผู้มีอำนาจตั้งตนเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมกับการตั้งบุคคลขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้เอื้อต่อประชาชนให้ลืมตาอ้าปากได้ สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานโดนริดรอน

และเมื่อมีการเลือกตั้งประชาชนกลับไม่รับรู้ถึงกติกาในการคำนวณคะแนน ประชาชนจึงอยู่ในภาวะจำยอม ได้รัฐบาลที่มีถึง 19 พรรค จัดตั้งรัฐบาลได้หลังมีการเลือกตั้งแล้วถึง 4 เดือน และเมื่อมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีซึ่งถูกตั้งคำถามถึงความเหมาะสม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แต่งตั้งจะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้พรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรคผนึกกำลังถ่ายทอดความรู้และแนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้กับประชาชนได้รับทราบ โดยเฉพาะความเข้าใจถึงที่มาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคต โดยขณะนี้ถือได้ว่าทั้ง 7 พรรคฝ่ายค้านมีศัตรูร่วมกัน จึงต้องสามัคคีต่อสู้ร่วมกันเพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญที่มีความเป็นธรรมกลับคืนมา

ชี้ กปปส.ตัวจริง คือ พล.อ.ประยุทธ์

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ฝากคำถามไปถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีว่า "นาฬิกาคืนเพื่อนไปแล้วหรือยัง" พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการสร้างความไม่สงบเรียบร้อยของ กปปส. ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นหัวหน้า จนนำมาสู่การรัฐประหารเมื่อปี 2557 แต่เมื่อเวลาผ่านไป กปปส.บางคนได้ดิบได้ดีเป็นรัฐมนตรี บางคนอยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ลำดับสูง ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหัวหน้า กปปส.ตัวจริง คือ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่นายสุเทพ โดยมีการตั้งพรรคพลังประชารัฐเพื่อสืบทอดอำนาจ

ทั้งนี้ เมื่อส่งเรื่องไปยัง กกต.ให้วินิจฉัยคุณสมบัติของพล.อ.ประยุทธ์และให้ยุบพรรคพลังประชารัฐ แต่กลับถูก กกต.ตีตก จึงเห็นได้ว่า "สิ่งใดถ้าเป็นพลังประชารัฐจะยุติหมด ถ้าเป็นอนาคตใหม่ก็ซวยไป" พร้อมกล่าวกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่นั่งอยู่ด้านข้างว่า "ทนเอาหน่อยนะน้อง ค่อยๆ สู้กันต่อไป" 

หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวด้วยว่า การกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์แบบไม่สง่างามนี้ หากตัวเองเป็นพล.อ.ประยุทธ์จะไม่กล้ารับตำแหน่งอีก เพราะตำแหน่งนายกฯ ที่ได้มายิ่งกว่าการวิ่งราวทรัพย์ เป็นการปล้นตำแหน่งนายกฯ ซึ่งปัญหาของประเทศจะหมดไปหากพล.อ.ประยุทธ์ออกจากตำแหน่ง พร้อมกันนี้ยังขอเรียกร้องให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำคำพิพากษาของศาลออสเตรเลียมาเปิดเผย หากไม่ดำเนินการต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลโดยกระทรวงยุติธรรมที่จะต้องดำเนินการ

ผิดหวังชื่อรัฐมนตรี

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า สงสารประชาชน เพราะเมื่อมองดูรัฐบาลชุดนี้แล้วเกิดความสิ้นหวัง 5 ปีที่ผ่านมาจากที่คิดว่าจะได้ดูหนังใหม่ แต่กลับต้องมาดูหนังเรื่องเดิม โดยเมื่อเห็นหน้ารัฐมนตรีชุดใหม่แล้วประเมินให้ทุกคนสอบไม่ผ่าน เป็นไปตามผลโพลที่ให้สอบตกตั้งแต่แรก โดยเฉพาะความไม่เชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนที่รัฐบาลนี้ไม่สามารถแก้ไขได้ ไล่เรียงตั้งแต่ตัวนายกรัฐมนตรีลงมาถึงรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า ความสงบของประชาชนต้องควบคู่กับการที่ประชาชนมีกินมีใช้ แต่กลับกลายเป็นว่าหัวหน้ารัฐบาลไม่ได้รับความเชื่อมั่นศรัทธา ขาดความน่าเชื่อถือ นักลงทุนจึงไม่กล้าเข้ามาลงทุน เพราะต่างรู้ว่ารัฐบาลไร้ความสามารถในการดูแลบ้านเมือง โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) กำหนดคุณสมบัติรัฐมนตรี ว่าต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ แต่กลับกลายเป็นว่าพล.อ.ประยุทธ์นำคนที่ "ประจักษ์ในเรื่องของความทุจริต" มาเป็นรัฐมนตรี

โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่ต้องเป็นคนที่ได้รับความไว้วางใจ เพราะเป็นคนดูแลเงินคลังของประเทศ ต้องมีความสุจริต ต้องไม่มีตำหนิ ในกรณีของนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แม้ศาลไม่มีคำพิพากษาให้ติดคุก แต่จะอ้างว่าสุจริตเป็นที่ประจักษ์ไม่ได้ นายอุตตมจึงมีคุณสมบัติไม่ผ่านตามรัฐธรรมนูญ เอาตัวรอดจากคดีมาได้จากความมหัศจรรย์ของกฎหมาย ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยมีรัฐมนตรีคลังคนใดที่ถูกตั้งคำถามตั้งแต่แรกในการเข้ามาทำงานเหมือนกับในยุคนี้

บอกรัฐธรรมนูญ 60 เป็นมะเร็งร้าย

หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวด้วยว่า คนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กำลังประสบปัญหาปากท้อง โดยเฉพาะราคายางพาราที่ตกต่ำ คนขาดการศึกษาเพราะไม่มีเงินไปโรงเรียน ปัจจุบันคนไม่ได้กลัวการโดนฉกชิงวิ่งราวจากโจรขโมย แต่กลัวคนที่มาวิ่งราวโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ วิ่งราวรถไฟความเร็วสูง รวมถึงการวิ่งราวอำนาจ คนรวยวิ่งราวคนจน จนกลายเป็นวิกฤตของชาติ

ส่วนปัญหาของประเทศขณะนี้ คือการที่ไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับการอยู่หรือไปของพล.อ.ประยุทธ์ เพราะตราบใดที่ประเทศไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตย การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การกระจายอำนาจ ปัญหาการไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งการที่จะทำให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงได้นั้น อันดับแรกคือการทำให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตย เพราะรัฐธรรมนูญ 2560 คือ"รัฐธรรมนูญปลอม" เป็น "มะเร็งร้ายของประเทศ" นำมาซึ่งประชาธิปไตยจอมปลอม รัฐบาลปลอม หากไม่มีการแก้ไข ไม่ใช่พลเอกประยุทธ์ตายคนเดียว แต่จะตายกันทั้งประเทศ ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญนั้นต้องทำเป็น "มติมหาชน"

ธนาธรเอาด้วย ไม่กลัวรัฐประหาร

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศไทยในปัจจุบันเป็นวิกฤติที่หนักมาก สิ่งที่รู้สึกเศร้าใจมากที่สุด คือเรากำลังจะส่งสังคมที่แย่กว่านี้ให้กับลูกหลาน หากไม่ทำอะไรในวันนี้ ลูกหลานของเราจะได้รับสังคมที่แย่กว่านี้ 

โดยหนึ่งในวิกฤติที่หนักที่สุดคือความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเพิ่มขึ้นในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ GDP ของประเทศไทยเติบโตขึ้นถึง 15% แต่รายได้ภาคแรงงานเติบโตแค่ 5% รายได้ภาคเกษตรติดลบถึง 3% หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 28% แต่คนรวยที่สุดในประเทศไทยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นถึง 68% ดังนั้นทุนผูกขาดกับความเหลื่อมล้ำจึงเป็นสองด้านบนเหรียญเดียวกันที่แยกจากกันไม่ได้

นายธนาธร กล่าวต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นผลโดยตรงมาจากการบริหารประเทศภายใต้นโยบายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนใหญ่ โดยเฉพาะการที่ พล.อ.ประยุทธ์ใช้ ม. 44 ออกมาตรการช่วยเหลือกลุ่มทุน ขณะที่ชาวนาไม่มีโอกาสแบบนายทุน จึงทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการปฏิบัติระหว่างกลุ่มทุนกับชาวบ้านนั้นไม่เท่าเทียมกัน 

ที่เป็นแบบนี้เพราะไม่เคยมีประชาชนอยู่ในประเทศ เมื่อไม่มีประชาธิปไตยก็ไม่มีประชาชน การพัฒนาที่เกิดขึ้นก็จะเป็นการพัฒนาที่มองไม่เห็นประชาชน เพราะรัฐไทยไม่เคยมองเห็นประชาชน จึงเกิดคำพูดที่ว่าไม่ต้องสนใจประชาธิปไตย ต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจก่อน ซึ่งนี่คือการหลอกลวง เพราะระบบการเมืองที่ดีเท่านั้นถึงจะทำให้ระบบเศรษฐกิจดีขึ้นได้

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะต้องดำเนินการผ่านสภาผู้แทนราษฎร ดึงความศักดิ์สิทธิ์ของสภาฯ ในฐานะผู้แทนประชาชนกลับคืนมา หากจะต้องมีการรวมตัวกัน จะต้องเกิดขึ้นที่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่ารัฏฐาธิปัตย์ยังอยู่กับสภาผู้แทนราษฎร โดยหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นพรรคฝ่ายค้านจะร่วมต่อสู้กับประชาชน ทั้งนี้เชื่อว่าจะไม่มีการทำรัฐประหาร แต่หากทำก็จะต้องร่วมกันต่อสู้

สรรหา ส.ว.ขัดรัฐธรรมนูญ

นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย ตั้งข้อสังเกตุว่า กระบวนการสรรหา 250 ส.ว.อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการที่มีกรรมการสรรหา 6 ใน 10 คน ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นส.ว.ด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบคุณสมบัติพบว่ามี ส.ว.หลายคนที่อาจจะต้องสิ้นสภาพการเป็น ส.ว. ซึ่งเรื่องนี้ได้ยื่นญัตติด่วนต่อสภาฯให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบแล้ว ขณะที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เชื่อว่ามีคนเป็นล้านคนที่ต้องการให้แก้ไข

นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล รองหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ระบุว่า ปัจจุบันคนรากหญ้ากำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยเฉพาะราคาพืชผลการเกษตรที่ตกต่ำ จึงเกรงว่ารัฐบาลปัจจุบันจะมีนโยบายให้ประชาชนไปปลูกต้นหมาก เพราะปีนี้เป็นปีที่ข้าวยากหมากแพง ขณะเดียวกันเมื่อมองดูทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ยังคงเป็นทีมเดิมแล้ว ทำให้ไม่มั่นใจว่าจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ แม้จะมีพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยอยู่ในทีมด้วยก็ตาม