วันที่ 6 ก.พ. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าการนัดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาหารือเรื่องสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเพื่อให้เข้าใจตรงกันหลังสถานการณ์เงินเฟ้อติดลบ 4 เดือนติดต่อกัน ว่า นโยบายการเงินการคลังเราคุยผ่านสำนักงานเศรษฐกิจการคลังอยู่แล้ว ซึ่งตนขอเรียนว่าเรื่องเงินเฟ้อหรือดอกเบี้ยเป็นเรื่องใหญ่ แต่ว่าเราอย่าลืมว่าเงินเฟ้อที่ติดลบวันนี้ส่วนหนึ่งมีมาตรการรัฐที่ช่วยเหลือประชาชนในการลดรายจ่ายออกไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเด็นเรื่องเงินเฟ้อตรงนี้ไม่มี ถ้าเกิดจะมีมาจากเรื่องต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้น ถ้าเราไปคุมตรงนั้นได้เงินเฟ้อก็จะไม่มี แต่มาตรการในการคิดดอกเบี้ยหรือจะไม่ลดต้องดูที่ความต้องการของประชาชน และเมื่อมันไม่เกิดต้องมาดูว่าปลอดภัยหรือไม่ที่จะลดดอกเบี้ยได้แล้วเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และถ้าหากลดดอกเบี้ยมาแล้วมีปัญหาเรื่องความต้องการก็อาจทำให้เกิดเงินเฟ้อได้ ซึ่งจากที่ตนดูตัวเลขทั้งสองฝ่าย พื้นที่ในการลดดอกเบี้ยมีอยู่บ้าง ดังนั้นในเรื่องการพูดคุยเราก็พูดคุยกันชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนนโยบายต่างๆ และเรื่องของทิฐิตนไม่ทราบแต่มันชัดเจนอยู่แล้วว่าเงินเฟ้อติดลบติดต่อกัน 4 เดือน

ส่วนเรื่องมาตรการที่รัฐบาลพยายามช่วยเหลือประชาชน อาทิ ลดรายจ่าย ลดค่าไฟ พักชำระหนี้ ลดค่าน้ำมันต่างๆ สามารถบรรเทารายจ่ายของประชาชน พร้อมยืนยันว่า ตามที่ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันไปที่รัฐบาลไม่สามารถใช้งบประมาณได้จนถึงเดือนพฤษภาคม ตอนนี้รัฐบาลขับเคลื่อนช่วยเหลือประชาชนด้วยนโยบายอย่างเดียว อาทิ ฟรีวีซ่า นโยบายกระตุ้นการลงทุนจากบริษัทข้ามชาติ ซึ่งเป็นการใช้นโยบายดำเนินจริงๆ เพราะฉะนั้นเรื่องการลดดอกเบี้ยถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะรายจ่ายที่เกี่ยวข้อง กับเรื่องลดดอกเบี้ยเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งพวกเราทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าดอกเบี้ยเป็นภาระค่าใช้จ่ายขนาดไหน ดังนั้นถ้าลดดอกเบี้ยไป และเน้นเรื่องที่จะเกิดเงินเฟ้อตนมองว่าความเสี่ยงเกือบจะไม่มีเลย 

เมื่อถามว่า มาตราการของธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาถือเป็นการกระตุกแขนกระตุกขารัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องนี้สื่อมวลชนต้องไปพิจารณาเอง แต่ตนเชื่อว่าเราน่าจะทำงานร่วมกันได้ และเป็นอย่างที่ ภูมิธรรม พูดว่านโยบายการเงินการคลังต้องไปด้วยกันควบคู่กันไป ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประจักษ์แล้วว่า สถานการณ์ยังเงินติดลบอยู่ ยังไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้

ส่วนจะทำอย่างไรให้รัฐบาลที่เป็นฝ่ายบริหารและแบงค์ชาติในฐานะฝ่ายปฏิบัติสามารถเดินคู่กันได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็มีการพูดคุยไปแล้ว เจอกันล่าสุดผู้ว่าฯ ธปท.ก็ระบุว่า จะต้องให้ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลังไปคุย พร้อมย้ำว่า มีการพูดคุยกันตลอด และการสื่อสารวันนี้ก็พูดจากันอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้มีการก้าวร้าว ซึ่งตรงนี้ก็เป็นบทพิสูจน์แล้ว และเห็นตัวเลขด้วยกันซึ่งไม่มีใครมาถกเถียงว่าตัวเลขนั้นไม่ตรง เพราะตัวเลขมันชัดเจนอยู่แล้ว ทั้งนี้ตนเชื่อว่าการลดดอกเบี้ยนั้นถึงเวลา และก็ฝากไว้ให้คณะกรรมการการเงินที่เกี่ยวข้องต้องไปประชุมกัน

ส่วนวันประชุมคณะกรรมการดิจิทัลลอลเล็ตชุดใหญ่ ซึ่ง จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังจะป็นคนพิจารณา คาดว่าอยู่ช่วงกลางสัปดาห์หน้า 

เมื่อถามย้ำว่า เดินหน้าได้โดยไม่ต้องรอ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก็ต้องเดินหน้าควบคู่กันไป ซึ่งเดี๋ยวมีคำแนะนำจากป.ป.ช.ในวันนี้