วันที่ 22 มิ.ย. ที่อาคารรัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เดินทางมารายงานตัวการเป็น ส.ส.ชุดที่ 26 พร้อมกล่าวถึงปัญหาความไม่ชัดเจนเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า ส่วนตัวมองว่าทั้งสองพรรคยังทำงานด้วยกันได้ดี ซึ่งปัญหาตำแหน่งประธานสภาฯ เชื่อว่าสุดท้ายจะตกลงกันได้ เมื่อตกลงกันได้แล้วก็ควรจะรักษาคำพูด
"การจะทำงานให้ประชาชน แล้วพูดกลับไปกลับมา วันนี้จะพูดอย่างนี้ อีกวันจะพูดอย่างโน้น มันไม่ดี ดังนั้น ต้องรักษาคำพูด เพราะการจะไปสู่เป้าหมายนั้นลำบาก ไม่เช่นนั้นจะทำให้เผด็จการฟื้นคืนชีพอีก"
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังฝากไปยังบรรดาลูกพรรคทั้งหลาย ให้ระวังการแสดงความคิดเห็น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหา ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างพูดจนเกิดปัญหา พรรคไม่สามารถควบคุมได้ หัวหน้าพรรคก็คุมไม่ได้ เกิดความแตกแยกกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ปรารถนา ไม่อยากเห็น อยากให้การทำงานของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเดินไปสู่เป้าหมาย เพื่อประโยชน์ของประชาชนให้ได้มากที่สุด
“ผมเองพรรคเสรีรวมไทยมันไม่ได้มีเสียงอะไร ประชาชนเขาให้มาแค่นี้ แต่ถึงจะได้มาแค่นี้ก็จะพยายามใช้ความรู้ และประสบการณ์สนับสนุนฝั่งประชาธิปไตย เดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนให้ได้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า หนึ่งเสียงของพรรคเสรีรวมไทย จะโหวตตำแหน่งประธานสภาฯ ให้พรรคก้าวไกล หรือ พรรคเพื่อไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่สามารถพูดได้จริงๆ เพราะทั้งสองพรรคก็ตกลงกันไปแล้ว เมื่อตกลงกันแล้วก็ขอให้เป็นไปตามที่พูด ไม่เช่นนั้นจะเสียหาย
ส่วนที่มีกระแสว่า พรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อ สุชาติ ตันเจริญ เป็นประธานสภาให้กับพรรคเพื่อไทยนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่สามารถพูดห้ามพรรคพลังประชารัฐได้ แล้วแต่จะเสนอ ส่วนเราก็ยึดมั่นของเรา ไม่วอกแวก แต่ยอมรับว่า การทำหน้าที่รองประธานของ สุชาติ ก็ทำได้ดี เป็นคนตรงไปตรงมา แต่จะให้พูดว่าเหมาะสมจะเป็นประธานสภาฯ คนต่อไปได้หรือไม่นั้น คงพูดไม่ได้ เพราะเมื่อพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลพูดอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น