วันนี้ (9 เม.ย. 2568 ) นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงการรับมือกับการประกาศกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ว่า การประกาศกำแพงภาษีกับแทบทุกประเทศทั่วโลกในครั้งนี้ เป็นการสื่อสารทางการเมืองเพื่อมุ่งหวังให้ทุกประเทศแข่งขันกันเจรจาเพื่อยื่นข้อเสนอที่เป็นประโยชน์สูงสุดแก่สหรัฐฯ ซึ่งรัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร สามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้เหมาะสม กล่าวคือไม่ผลีผลามประกาศตอบโต้หรือสยบยอม แต่เลือกที่จะออกแถลงการณ์เน้นย้ำความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ และแสดงจุดยืนพร้อมเป็นพันธมิตรทางการค้าที่ดีต่อกันต่อไป สิ่งที่รัฐบาลทำคือการเตรียมเจรจาเพื่อส่งเสริมการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าทางการเกษตรบางประเภทที่ไทยไม่สามารถผลิตได้เพียงพออยู่แล้ว และใช้โอกาสนี้เน้นย้ำยุทธศาสตร์การเป็นศูนย์กลางการแปรรูปอาหารของโลก เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับประเทศต่อไป

นายชนินทร์กล่าวว่า อีกสิ่งหนึ่งที่รัฐบาลต้องรีบดำเนินการให้เป็นรูปธรรม คือมาตรการการตรวจสอบแหล่งที่มาของสินค้าที่ออกจากไทยก่อนส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ป้องกัน ‘สินค้าผีปลอมสัญชาติ’ หรือการสวมสิทธิแหล่งที่มาจากประเทศไทยเพื่อส่งออกไปยังประเทศอื่น ซึ่งไม่ใช่มีแค่การส่งออกไปยังสหรัฐฯ เท่านั้น แต่มีการส่งออกไปยังประเทศอื่นด้วย เช่น การสวมสิทธิสินค้าเกษตรไทยส่งออกไปยังประเทศจีน เป็นต้น การจัดการกับเรื่องนี้ให้เด็ดขาด นอกจากจะลดการเกินดุลการค้ากับประเทศต่างๆ โดยไทยไม่ได้เสียอะไรแล้ว ยังช่วยส่งเสริมให้สินค้าที่ผลิตในประเทศอย่างแท้จริงได้มีโอกาสทางการแข่งขันเพิ่มขึ้นด้วย

“ประเทศไทยเป็นประเทศขนาดกลาง การเจรจาการค้ากับรายใหญ่ต้องอาศัยมิตรภาพที่ดี และไม่ผลีผลามมุ่งช่วยเหลือผู้ส่งออกจนทำร้ายผู้ผลิตในประเทศ มั่นใจว่ารัฐบาลจะหาทางออกที่ win-win ทุกฝ่าย และพลิกวิกฤตินี้เป็นโอกาสให้ได้” นายชนินทร์กล่าว