อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณี จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ระบุว่า อนุทิน จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ว่า ไม่มีแนวโน้ม เพราะนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำหน้าที่ทุ่มเทเสียสละเป็นผู้นำรัฐบาล ทำงานตลอดเวลารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลผสม เอาทุกพรรคมาร่วมกันต้องร่วมกันสนับสนุนหัวหน้ารัฐบาลให้ทำงานให้ได้

อนุทิน กล่าวว่า จตุพร คงวิเคราะห์ตามประสบการณ์ ทุกคนวิเคราะห์ได้ แต่ความเป็นจริงเป็นอย่างไร วันนี้นายกรัฐมนตรียังทำงานปกติ ไม่มีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถควบคุมได้ ยืนยันว่า กระแสข่าวดังกล่าวไม่ได้สร้างความหวาดระแวงระหว่างกันในรัฐบาล คนระดับประเทศเขาไม่หูเบาหรอก พร้อมกับยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังเหนียวแน่นอยู่ และเหนียวแน่นมากยืนยัน ไม่มีส้มหล่น กลัวทุเรียนหล่นไม่งั้นขาเจ็บขาแหกหมดไม่ไหวเดินไม่ได้ไม่มีอะไรทุกอย่างเป็นไปตามปกติ พรรคภูมิใจไทยยังให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และเรื่องนี้ไม่ต้องคุยอะไรกับนายกรัฐมนตรีเพราะทุกคนเข้าใจดีอยู่แล้ว

ส่วนกรณีงบประมาณในการผลิตวัคซีน 6,000 ล้านบาท มีการตั้งข้อสังเกตว่าราคาวัคซีนแอสตร้าที่สั่งซื้อ มีราคาสูงกว่างบประมาณที่ตั้งไว้ อนุทิน กล่าวว่า นอกเหนือจากค่าวัคซีนแล้ว ยังต้องมีในส่วนของกรมควบคุมโรค ที่ต้องมีค่าหลอด เข็มฉีดยา ค่าเก็บรักษา และค่าดำเนินการด้วย ซึ่งงบประมาณ 6,000 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งหมด ส่วนวัคซีนที่ผลิต MRNA ขณะนี้มีหลายสถาบันผลิตอยู่ แต่ไทยนั้นได้จัดหาจาก แอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเซ็นสัญญาไปแล้ว และทางการไทยมีข้อตกลงในความร่วมมือการผลิต ซึ่งเป็นราคาต้นทุนที่ต่ำที่สุด คิดราคาขวดละ 5 เหรียญ และในวันที่ 25 พ.ย. บริษัท ไฟร์ทเตอร์ จะเข้าพบนายกรัฐมนตรี ตนเองจะได้เข้าพบด้วย