ไม่พบผลการค้นหา
รพ.สต. บุกทำเนียบ กดดัน 'ประยุทธ์' เร่งถ่ายโอน รพ.สต. ให้อบจ. ในปีงบ 66 ลั่นพรรคการเมืองใดดูแล เพื่อให้เราไปดูแลประชาชนได้ พร้อมที่จะสนับสนุน

ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของทำเนียบรัฐบาล สมศักดิ์ จึงตระกูล ประธานชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต. (ประเทศไทย ) พร้อมด้วย สมาชิก รพ. สต จังหวัดต่างๆ ยื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อขอให้พิจารณาทบทวน มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 15 มีนาคม 2565 ที่ได้เห็นชอบกรอบวงเงินปีงบประมาณ 2566 เพื่ออุดหนุน ให้แก่รพ. สต ถ่ายโอน จำนวน 3,384 แห่ง บุคลากรสมัครใจ 22,265 คน โดยชมรมเห็นว่า รายละเอียดกรอบวงเงิน ที่สำนักงบประมาณเสนอครม.นั้น ไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติ กำหนดแผนและขั้นตอน การกระจายอำนาจ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ. ศ. 2542 และไม่เป็นไปตาม ประกาศคณะกรรมการ กระจายอำนาจ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในเรื่องหลักเกณฑ์ และขั้นตอน การถ่ายโอนภารกิจ สถานีอนามัย เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบล ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 ซึ่งไม่เป็นไปตามมติ คณะอนุกรรมการ บริหารภารกิจถ่ายโอน ด้านสาธารณสุข ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เห็นชอบให้มีการถ่ายโอนภารกิจดังกล่าวให้แก่อบจ 49 แห่ง ในปีงบประมาณ 2566 ซึ่งสำนักงบประมาณ เสนอ ครม.เห็นชอบตามกรอบวงเงินงบประมาณ ให้มีการถ่ายโอนเพียง 512 แห่ง ทำให้เกิดข้อขัดข้องทางกฎหมาย และไม่เป็นไปตามหลักการกระจายอำนาจ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ดังนั้น จึงขอเร่งรัดให้มีการถ่ายโอน รพ.สต. ให้ครบทั้งหมด ตามที่เคยเป็นมติคณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุขให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายในปีงบประมาณ 2566 โดยมี ธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับมอบหนังสือ

ขณะที่ สมศักดิ์ ระบุว่า การถ่ายโอน รพ.สต ให้อบจ. พวกเราเชื่อมั่นว่า จะทำให้การบริการประชาชนดีกว่าเดิมเพราะเราจะได้รับงบประมาณและคนอย่างเต็มที่ และเมื่อไปอยู่ภายใต้ อบจ.สายการบังคับบัญชาจะสั้นลง และจะตอบสนองการแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว และวันนี้เรามีรพ.สต.ทั้งประเทศประมาณ 10,000 แห่ง แต่ละแห่งมีบุคลากร 5 คนและยังมี อสม.ดูแลประชาชนทั่วประเทศอยู่ประมาณ 1.04 ล้านคน แต่ละคนดูแลประชาชน 15 ครัวเรือน แต่ละหลังเฉลี่ย 3 คน เราถือว่ามีคนในเครือข่ายเยอะมาก สามารถตั้งพรรคการเมืองได้เลย

"หากพรรคการเมืองใดดูแลเราเพื่อให้เราไปดูแลประชาชน เราก็พร้อมที่จะสนับสนุน และหาก พล.อ.ประยุทธ์ ผลักดันในเรื่องนี้ เราก็พร้อมที่จะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ต่อ แต่ขอให้สนับสนุนเราจริงๆ"

ทั้งนี้ หากรัฐบาลชุดปัจจุบัน ไม่สามารถตอบสนองได้ แสดงว่าไม่ตอบสนองประโยชน์ประชาชนอย่างแท้จริง เราจะเอาประชาชนเป็นตัวตั้งในการดูแลสุขภาพ และหากรัฐบาลไม่ตอบสนองก็จะแสดงปฏิกิริยาอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา