นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)เปิดเผยว่า เวลา 15.00 น.พรรคพลังประชารัฐจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อหารือถึงผลการเลือกตั้ง ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.จะประกาศในเวลา 14.00 น. พร้อมกับหารือว่า พรรค พปชร.จะมียุทธศาสตร์ในการเดินหน้าอย่างไรบ้าง ซึ่งถือเป็นก้าวต่อไป หลังจากที่ประชาชนได้ลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว เสียงของประชาชนคือ สิ่งที่จะบอกว่า อยากเห็นประเทศไทยเดินหน้าไปอย่างไร และแต่ละพรรคการเมือง ได้รับการสนับสนุนมากน้อยเพียงใด
ทั้งนี้ หลังจากที่ได้ทราบเสียงของประชาชนแล้ว ผู้บริหารพรรค พปชร.จะไปพูดคุยกับพรรคการเมืองที่ทีแนวความคิด อุดมการณ์ จุดร่วมแบบเดียวกัน เพื่อเดินหน้าประเทศต่อไป ซึ่งจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากผลการเลือกตั้งครั้งนี้ มีคะแนนสูสีกันมาก จึงต้องใช้เวลาในการเจรจา เพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาลอีกระยะหนึ่ง
เมื่อถามว่า ถึงขณะนี้พรรค พปชร.จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิรวมเสียงให้ได้เพียงพอเกินกว่า 250 เสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลต่อไป อย่างไรก็ตาม จะต้องรอผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจาก กกต.ก่อน เพื่อจะได้ทราบจำนวน ส.ส.ที่เป็นจริง จากนั้นจึงจะรู้ว่า เราจะรวมกับพรรคการเมืองใดได้บ้าง เพื่อให้ได้ ส.ส. 251 คนขึ้นไปจัดตั้งรัฐบาล
ทั้งนี้ ตอนนี้ยังถือว่าเร็วเกินไปที่จะตอบว่าเราจะจับมือกับพรรคใดบ้าง แต่การเป็นรัฐบาล อย่างน้อยเราต้องมี ส.ส. 251 เสียง เพราะการแถลงนโยบายกากไม่มี 251 เสียง ก็จะไม่สามารถดำเนินการได้ นอกจากนี้ยังต้องพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่งจะไม่สามารถผ่านได้เลยหากไม่มี 251 เสียง พรรคจึงต้องดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อรวม 251 เสียงให้ได้
เมื่อถามว่า คะแนนป๊อบปูล่าโหวตที่พรรค พปชร.ได้มากที่สุด จะถือว่าชอบธรรมในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า การที่เราได้คะแนนป๊อบปูลาร์โหวตมาเป็นอันดับหนึ่ง แสดงว่ากลุ่มพลังเงียบเลือกเรา คิดว่า คะแนนเหล่านี้จะช่วยให้เรามีความเหมาะสมและเดินหน้าในเรื่องดังกล่าวได้ และนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ได้ย้ำหลักการของพรรคอย่างต่อเนื่องว่า ทุกพรรคมีสิทธิเดินหน้ารวมเสียงข้างมากเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้
เมื่อถามว่า ตอนนี้ได้มีการทาบทามพรรคการเมืองอื่นแล้วหรือยัง นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า มีคนโทรมาแสดงความยินดีแล้ว และจะมีการหารือในเบื้องต้น แต่เนื่องด้วยการเลือกตั้งครั้งนี้มีความซับซ้อน จึงเชื่อว่าภายหลัง กกต.แถลงผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว ทุกอย่างก็จะมีความชัดเจน ว่าเราจะจับมือกับพรรคการเมืองใดบ้าง ส่วนที่มีการเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ในหลายเขตเลือกตั้งนั้น ส่วนตัวไม่ได้กังวลว่าจะกระทบต่อคะแนนเสียงโดยรวมของพรรค เพราะในหลายประเทศ หากคะแนนแพ้ชนะกันแค่ ร้อยละ 0.5 ก็จะให้มีการนับใหม่ เรายินดีน้อมรับคำตัดสินของ กกต.พร้อมกับดำเนินการเรียกร้องให้ กกต.ดำเนินการให้มีความกระจ่าง หากพบว่า ยังคลุมเครือ เช่นบางเขตเลือกตั้งที่คะแนนห่างกันในหลักร้อย ก็ขอให้มีการนับคะแนนใหม่ เป็นต้น