กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำนิติบุคคลด้านเทคโนโลยีของจีน 5 บริษัท ได้แก่ ซูกอน บริษัทผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่สำคัญของจีน และบริษัทลูกอีก 3 แห่งที่ผลิตไมโครชิป และสถาบันคอมพิวเตอร์ของกองทัพจีน ซึ่งจะทำให้บริษัทสัญชาติอเมริกันไม่สามารถซื้อขายเทคโนโลยีกับนิติบุคคลเหล่านี้ หากไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐฯ ก่อน เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ ประเมินว่านิติบุคคลเหล่านี้ "มีพฤติกรรมขัดกับความมั่นคงของชาติหรือผลประโยชน์ทางนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ"
การขึ้นบัญชีดำถือเป็นมาตรการล่าสุดของสหรัฐฯ ในการตอบโต้อุตสาหกรรมซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของจีน ซึ่งอาจยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนยิ่งตึงเครียดขึ้น ก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีวสหรัฐฯ และนายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนจะพบกันในสัปดาห์หน้าระหว่างการประชุมจี 20 ที่ญี่ปุ่น
ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนได้ลามมาถึงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยเริ่มจากที่รัฐบาลทรัมป์แบนบริษัทหัวเว่ย บริษัทเทคโลยีชื่อดังของจีน โดยให้เหตุผลว่า หัวเว่ยสอดแนมข้อมูลลับให้กับรัฐบาลจีน แม้หัวเว่ยจะปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยเฟซบุ๊กและกูเกิลออกมารับลูก ด้วยการประกาศว่าจะตัดความสัมพันธ์ทางการค้ากับหัวเว่ยตามมาตรการคว่ำบาตรของรัฐบาล
หลังจากมีการขึ้นบัญชีบริษัทหัวเว่ย จีนตอบโต้ด้วยการขู่ว่าจะประเมินบริษัทและบุคคลต่างชาติที่ไม่น่าไว้ใจและใส่ไว้ในบัญชีดำเช่นกัน เพื่อกดดันให้บริษัทต่างชาติยังคงความสัมพันธ์ทางการค้ากับบริษัทหัวเว่ย และไม่ประกาศคว่ำบาตรหัวเว่ยตามสหรัฐฯ
สำนักข่าวเดอะนิวยอร์กไทม์สรายงานว่า ต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้เรียกผู้บริหารบริษัท เดลและไมโครซอฟต์ของสหรัฐฯ รวมถึงซัมซุงของเกาหลีใต้และอีกหลายบริษัทเพื่อไปตักเตือนว่า หากพวกเขาลดระดับการค้าขายกับธุรกิจของจีน บริษัทนั้นๆ อาจถูกตอบโต้จากจีน
ที่มา : AFP
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :