ไม่พบผลการค้นหา
พรรคพลังประชารัฐไม่สน ปชป. แถลงเปิดตัว ‘อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ’ สู้ศึกเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราชเขต 3 ชี้เป็นความต้องการของชาวบ้าน เชื่อไม่กระทบซักฟอก ลั่น “ถ้า ปชป.ไม่โกง เราชนะไปแล้ว”

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 ก.พ. ที่รัฐสภา ส.ส.ภาคใต้พรรคพลังประชารัฐ 8 คน แถลงข่าวเปิดตัว อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 เมื่อปี 2562 ลงแข่งขันการเลือกตั้งซ่อมในเขต 3 จ.นครศรีธรรมราช โดย อาญาสิทธิ์  กล่าวว่า มีความพร้อมในการลงสมัครรับเลือกตั้งเขต 3 จ.นครศรีธรรมราช และประชาชนในพื้นที่ก็พร้อมที่จะสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ 

พลังประชารัฐ

รงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช  แถลงถึงการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จ.นครศรีธรรมราช ว่า เราได้รับการร้องขอจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ให้ ส.ส.นครศรีธรรมราช ของพรรคมาบอกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้มีมติส่งตัวแทน คือ อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เมื่อปี 2562 ลงแข่งขันการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเราคิดว่าสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องมีเหตุผลเรื่องความเป็นประชาธิปไตย และพรรคเองต้องทำหน้าที่ส่งผู้สมัครเมื่อตำแหน่งว่างลง

รงค์ กล่าวว่า มารยาททางการเมืองเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันอยู่บ้าง แต่ไม่ได้เขียนไว้ในกฎหมาย ซึ่งมารยาททางการเมืองเป็นข้อตกลงหลวมๆไม่ได้ผูกมัดอะไรขึ้นอยู่กับการพูดคุยและเจรจา แต่ภารกิจของเราระดับพรรค ประชาชนเรียกร้องให้มีตัวเลือกมากๆ การบล็อกคนไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นกระบวนการที่ไม่ใช่วิถีประชาธิปไตย

ดังนั้น มารยาททางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย คือ การเปิดตัวเลือกให้ประชาชนมีสิทธิ์เลือกคนที่เขารัก ไม่ใช่การนิยามของผู้ใดผู้หนึ่งภายใต้ความปรารถนาขอตนเอง นอกจากนี้ ยังมองว่ามารยาททางการเมืองยังหมายถึงพรรคหรือผู้สมัครคนใด ถ้าทำผิดพลาดแล้วถูกออกจากตำแหน่งไปจะต้องไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งอีก

เมื่อถามว่า การส่งผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐจะส่งผลต่อการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ รงค์ กล่าวว่า เราจะเอาเหตุเรื่องการลงสมัครมาพัวพันเป็นรอยร้าวของพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ ถ้าจะแตกหักต้องแตกหักกันเชิงนโยบาย ต้องไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งจากการแข่งขันกัน ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะเอาเหตุนี้มาเป็นเหตุให้ยกมือโหวตสวนหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) ที่ต้องไปคุยกัน ขอย้ำว่า การแข่งขันกันทางเลือกตั้งไม่เป็นเหตุผลที่จะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลมีรอยร้าวกัน เพราะการแข่งขันเป็นเรื่องปกติ เราจะเอาเหตุปกติมาเป็นตัวชี้วัดให้เกิดความร้าวฉานไม่ได้

พลังประชารัฐ

ด้าน นิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เราจำเป็นต้องส่งผู้สมัครพรรคลงแข่งขัน เพื่อช่วงชิงส.ส.เขต 3 จ.นครศรีธรรมราช เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะไม่ส่ง เนื่องจากเป็นเสียงเรียกร้องจากสมาชิกพรรคในพื้นที่เขต 3 จ.นครศรีธรรมราช ให้เขาได้เลือกผู้แทนที่เขาไว้วางใจได้ ตนในฐานะกก.บห.ก็จะผลักดันเรื่องนี้ต่อไปในที่ประชุมกก.บห.พรรค 

ขณะที่ สายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งแทนไม่ใช่การเลือกตั้งซ่อม เพราะ ส.ส.คนเดิมถูกตัดสิทธิ์เนื่องจากทุจริตการเลือกตั้ง ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์จึงไม่มีความชอบธรรมที่จะส่งผู้สมัครลงแข่งอีก ถ้าเป็นพรรคพลังประชารัฐก็คงไม่ส่งผู้สมัคร อีกทั้ง ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐได้คะแนนเป็นที่สอง จึงมีความชอบธรรมที่จะส่งผู้สมัคร เพราะถ้าไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเราจะได้ที่หนึ่งได้เป็น ส.ส.ไปแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราจะได้ส.ส.นครศรีธรรมราช 4 ต่อ 4 คนเท่ากับพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนโครงการคนละครึ่ง

"ไม่ใช่การเลือกตั้งซ่อม แต่เป็นการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากถูกศาลติดสินว่าทุจริตเลือกตั้ง ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรงมากในทางการเมือง การเลือกตั้งที่ผานมาพรรคพลังประชารัฐได้ที่สอง เรายืนยันได้ว่า ถ้าเขาไม่ทุจริตเราก็ได้ที่หนึ่งไปแล้ว และเชื่อว่าจะไม่เป็นรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล เพราะไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐหรือพรรคประชาธิปัตย์จะได้ คะแนนเสียงพรรคร่วมก็เท่าเดิมเพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนกัน" สายัณห์ กล่าว  

‘ธรรมนัส’ เชื่อ ‘ประวิตร’ เคลียร์ ปชป.ได้ในศึกซักฟอก

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส​ พรหม​เผ่า​ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวง​เกษตร​และ​สหกรณ์​ ในฐานะ​รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ​หรือ​ พปชร.​ระบุ​ว่า นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาลได้มีการเตรียมความพร้อมการรับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ​ แต่เนื่องจากสถานการณ์​การแพร่ระบาดโควิด-19​ ทำให้ไม่สามารถรวมตัวกัน​และจัดเตรียมข้อมูล​ได้​

ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมนำเงื่อนไขการส่งผู้สมัคร​เลือกตั้งซ่อม​เขต 3 จ.นคนศรีธรรมราช​มาใช้ในการอภิปรายนั้น​ ​เรื่องนี้ไม่น่าเป็นประเด็น​ เพราะเชื่อว่า​ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ​ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการพูดคุยแล้ว​ จึงขอให้แยกกันระหว่างการเมืองกับการเลือกตั้ง โดยเชื่อว่าสามารถหาทางออกแบบสันติ​วิธีได้​ ส่วนการอภิปรายจะเป็นไปตามกรอบหรือพาดพิงไปนอกเหนือญัตติ​หรือไม่นั้นเป็นเรื่อง​ของรัฐสภา