วันที่ 16 ต.ค. ที่อาคารรัฐสภา ก่อนการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล อดิศร เพียงเกษ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เผยว่าสำหรับสัปดาห์นี้จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มมาในวันศุกร์ 1 วัน เพื่อชดเชยจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาญัตติต่างๆ ที่ค้างอยู่ คงไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
อดิศร ยังกล่าวถึงกรณีได้ข่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้าน เตรียมยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังเสร็จสิ้นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ส่วนตัวคิดว่า รัฐบาลนี้ทำงานมาเพียง 1 เดือน มีผลงานมากมายตามที่ปรากฏต่อพี่น้องประชาชน
อดิศร กล่าวว่า การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เป็นสิทธิ์ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เมื่อมีคะแนนเสียงครบ และมีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แต่ต้องดูกาละเทศะ และขอให้ข้อสังเกตว่า การจะยื่นซักฟอกใคร ท่านควรจะยื่นซักฟอกตัวเองให้ขาวสะอาดก่อน การมาศาลต้องมาด้วยมือสะอาด เป็นหลักของกฎหมายทั่วไป
"ผมได้ยินว่าท่านกำลังซักฟอก ไม่ว่าจะเรื่องคุกคามทางเพศ หรือเรื่องอื่นใด ตามที่เป็นข่าว ขอให้ซักฟอกให้ขาวสะอาด แล้วค่อยมาเจอกันในศึกไม่ไว้วางใจ จะดีกว่าไหม ก็ยินดีครับ ไม่ว่าจะยื่นเมื่อไหร่ ทางรัฐบาลโดยคุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ท่านก็พร้อม ตั้งแต่ทำงานมา ผมว่าท่านยังไม่มีเวลาพักผ่อนเลย"
อดิศร ยังกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของพรรคร่วมฝ่ายค้านจะต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่แล้ว ทางรัฐบาลก็ไม่ได้เกรงกลัว พร้อมจะตอบทุกคำถามที่ท่านสงสัย สามารถอธิบายในทางการเมืองได้ทั้งหมด ตนเองก็เคยเป็นฝ่ายค้านโดยอาชีพเหมือนกัน หากมีข้อสงสัยใดๆ ก็ซัดมาเลย เพื่อไม่ให้รัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ต่อ ไม่ต้องมาเล่นโวหาร แต่ถ้าเป็นข้อมูลลอยๆ ก็จะไม่สมกับญัตติไม่ไว้วางใจ
ทั้งนี้ อดิศร ยังย้ำว่า ขอให้พรรคร่วมฝ่ายค้านซักฟอกตัวเองก่อน และตนเองก็อยากรู้ผลของการซักฟอกด้วย เพราะถือเป็นเรื่องสะเทือนขวัญ หากเกิดขึ้นในพรรคการเมืองขนาดใหญ่
อดิศร ยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นเรื่องน่าห่วงมาก เพราะว่ามีประสบการณ์ โดยฝีไม้ลายมือแล้วส่วนตัวมองว่าพรรคประชาธิปัตย์เหนือกว่าพรรคก้าวไกลหลายขุม แต่มวยใหญ่เขาจะไม่ออกอาการ
"จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ธรรมดานะ ถ้าวันไหนคืนดี ท่านชวน หลีกภัย สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นมานี่ สนุกไปเลย แต่ว่าจะมีสาระ" อดิศร กล่าว
สำหรับกรณีของ ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ย้ายไปสังกัดพรรคเป็นธรรม ซึ่งก็ยังเป็นขั้วพรรคร่วมฝ่ายค้าน อดิศร ปฏิเสธให้ความเห็น พร้อมบอกว่าได้ตัดสินไปแล้ว ที่เหลือก็ให้พี่น้องประชาชนเป็นผู้ตัดสิน แล้วขออวยพรให้ท่านทำหน้าที่รองประธานสภาฯ ประสบความสำเร็จ เพื่อสภาเราจะได้เดินหน้าต่อไป