วันที่ 26 ม.ค. ที่อาคารรัฐสภา จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่เฟซบุ๊กเพจ ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร’ กล่าวหาว่าตนเองหนีทหาร โดยระบุว่า หากจะมีการตรวจสอบว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ถ้าอยากจะรู้ขนาดนั้น ก็เป็นหน้าที่ของราชการ เป็นเอกสารตั้งแต่ 14 ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นเราเป็นเด็กที่เพิ่งเรียนจบ แล้วก็ไม่ได้ไปรายงานตัว จำได้ว่าวันนั้นติดเรียน หรือติดธุระอะไรสักอย่าง ก็เลยไปในวันรุ่งขึ้น
“หน่วยงานราชการเรียกไปทำอะไร เราก็ทำตามหมด ให้จ่ายค่าปรับก็จ่าย ให้จับใบดำใบแดงก็จับ ให้เอกสารอะไรมาก็ทำตามกระบวนการที่เขาให้ทำทุกอย่าง ไปจ่ายค่าปรับที่ศาลรึเปล่าน่าจะใช่ ผมก็ทำตามเขา นั่งรถกับเขา แล้วเขาก็พากลับมาที่อำเภอ ทุกอย่างก็จบแค่นั้น” จิรัฏฐ์ กล่าว
จิรัฏฐ์ ยืนยันว่า ไม่มีการปลอมเอกสารแน่นอน แต่ที่ออกมาพูดช้า ยอมรับเลยว่าหาเอกสารไม่เจอ สุดท้ายไปรื้อเจอที่บ้านคุณแม่ ส่วนที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า ในใบ สด. ที่เอามาแสดงนั้น ไม่มีรอยนิ้วมือ จิรัฏฐ์ กล่าวว่า ก็ยังสงสัยอยู่ ว่าทำไมถึงไม่มี เขาไม่ได้ให้ปั๊ม แต่ที่เช็คกับหลายคนก็ไม่มี
ส่วนยืนยันหรือไม่ว่า ทำตามกระบวนการถูกต้อง จิรัฏฐ์ กล่าวว่า เราเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง เข้าไปในหน่วยงานราชการ ก็ทำตามกระบวนการอยู่แล้ว จะมีอำนาจอะไรไปสั่งการ
เมื่อถามถึงการตั้งข้อสังเกตุว่า โดยปกติแล้วหากศาลมีคำสั่งว่าหนีทหาร จะต้องไปเกณฑ์ทหารทันที ไม่ใช่ไปจับใบดำใบแดงแบบนี้ จิรัฏฐ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม กระบวนการของศาล ซึ่งตนก็ต้องทำตามที่เขาให้ทำ
“เอาตรงๆ รู้สึกโชคดี ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ผมคงไม่ต้องไปเกณฑ์ทหารแล้ว เกณฑ์ทหารไม่ได้อะไรอยู่แล้ว ชีวิตเสียหายไป 2 ปี แทบจะเอาชีวิตไปทิ้งเลย ถ้ามันออกมาเป็นยังงั้น ผมก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดี ผมไม่รู้หรอก ว่ากระบวนการเป็นยังไง ก็แล้วแต่หน่วยงานราชการ เขาบอกให้ทำก็ทำ” จิรัฏฐ์ กล่าว
สำหรับกรณีที่มีข้อสงสัยว่าเป็นการเปลี่ยนชื่อเพื่อหนีทหารนั้น ตนเปลี่ยนตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ปีหนึ่ง เปลี่ยนทั้งบ้าน เพราะคุณแม่ไปดูดวงมา เรื่องการเกณฑ์ทหารเป็นเรื่องหลังเรียนจบ ตนเปลี่ยนชื่อก่อนหลายปีมาก ไม่เกี่ยวข้องกัน ส่วนในเอกสารราชการจะเปลี่ยนชื่อหรือยังนั้น ไม่ทราบ
ส่วนที่มีการมาร้องเรียนกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหารนั้น ได้ทราบว่ารับเรื่องมาแล้ว ซึ่งเมื่อถึงเวลาลงมติ คงไม่ออกความเห็น ให้กรรมาธิการฯ คนอื่นพิจารณา ว่าจะนำเรื่องนี้เข้ามาพูดคุยหรือไม่ ส่วนตัวกรรมาธิการมีหน้าที่ศึกษาพิจารณา แก้ไข สืบสวน ข้อพิพาท ที่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องข้อพิพาทระหว่างประชาชนกับหน่วยงานรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการทหาร โดยประชาชนที่มาร้องเรียนจะต้องเป็นผู้เสียหาย ที่มาเรียกร้องความยุติธรรม ความเป็นธรรม แต่เรื่องนี้ยังไม่ทราบ ว่าใครเป็นผู้เสียหาย และเขาได้รับความเดือดร้อนอะไร จากสิ่งที่มันเกิดขึ้น ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน
“ผมไม่ได้แปลกใจกับเรื่องนี้ เพราะการถูกทำลาย เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเรื่องราวที่ผมพูด และสิ่งที่กำลังทำ เป็นเรื่องที่ถูกทางแล้ว เป็นประโยชน์สาธารณะ ไม่ได้พูดเพื่อตัวเอง ถ้าทำแล้วสำเร็จ ก็เป็นประโยชน์ของคนทั้งประเทศ แต่เรื่องที่เขาทำเพื่ออะไร ใครได้ประโยชน์ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” จิรัฏฐ์ กล่าว
จิรัฏฐ์ กล่าวต่อว่า ไม่อยากให้สังคมเปลี่ยนประเด็น จากความผิดปกติในหน่วยงานทหารมาเป็นเรื่องนี้แทน เพราะเป็นการความพยายามในการบิดเบือนกระแสสังคมมากกว่า พร้อมเผยว่า คงไม่เสียเวลาดำเนินคดีกับผู้ร้องเรียน มองว่าเป็นกระบวนการดิสเครดิต มั่นใจว่าการพยายามทำลายไม่ว่าจะมากน้อยแค่ไหน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนข้อเท็จจริงที่ตนพูดเกี่ยวกับทหารได้