อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวถึงการผ่อนคลายมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 หรือ ศบค. ในวันที่ 20 มกราคม 2565 ว่า วันนี้ตนได้เชิญ นพ.โอภาส การกวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และได้ชี้แจงว่า ให้คำนึงถึงมิติด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตได้อย่างปกติให้ได้มากที่สุด ซึ่งทางกรมควบคุมโรคได้แถลงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ถึงแม้จะมีอัตราการติดเชื้อที่สูงและรวดเร็ว แต่จากการศึกษาเห็นว่าความรุนแรงของโรคสำหรับประเทศไทยน่าจะควบคุมได้ เนื่องจากมีมาตรการหลายอย่าง ซึ่งตนได้ทำความเข้าใจกับอธิบดีกรมควบคุมโรคว่า ไม่ใช่เป็นเพียงเสนอมาตรการเท่านั้น แต่จะต้องทำให้ทุกมิตินั้นเดินหน้าต่อไปให้ได้ และความปลอดภัยต้องมีอยู่
อนุทิน ยังยกตัวอย่างว่ามาตรการผ่อนคลายในครั้งนี้ จะมีการปรับพื้นที่โซนสีจังหวัด เราเคยเป็นอย่างไรมาแล้วดูดีที่สุด ก็ให้ไปคิดในมิติเหล่านั้น ให้ไปดูทุกอย่างและเราต้องมีความพร้อม หากเกิดเหตุการณ์ติดเชื้อ ต้องสามารถรองรับได้ไม่ให้เกิดการตื่นตระหนก พร้อมสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในการใช้ชีวิตและให้ความร่วมมือ
อนุทิน ยังขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือมาโดยตลอด เพราะยิ่งหากให้ความร่วมมือมาก เราก็จะนำไปสู่การผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
ส่วนการผ่อนคลายสถานบันเทิง ตรงไหนที่เป็นความเสี่ยงสูงก็จะค่อยๆ ทำ แต่ตนก็เข้าใจและเห็นใจเมื่อมีการร้องขอ อย่างการขอเปลี่ยนรูปแบบจากผับบาร์มาเป็นภัตตาคาร เราก็ยอม ทั้งที่ก็เป็นคนละรูปแบบกัน และย้ำว่า หากขอเปลี่ยนรูปแบบแล้ว ก็ขอให้เป็นร้านอาหารจริงๆ ไม่ใช่ว่ายังเป็นผับบาร์อยู่ ซึ่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ไม่สามารถผ่อนคลายมาตรการได้
พร้อมย้ำว่าตนอยากผ่อนคลายมาตรการ เราเห็นใจประชาชน ไม่ใช่ไม่รู้สึก ตนได้พูดกับอธิบดีกรมควบคุมโรคว่า ต้องเข้าใจการทำมาหากินของประชาชน เพราะข้าราชการยังไงก็มีเงินเดือน แต่ผู้ประกอบการลูกจ้างอยู่ได้เพราะมีการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ซึ่งทางอธิบดีกรมควบคุมโรคก็เข้าใจเป็นอย่างดี
อนุทิน ระบุอีกว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข จะเสนอมาตรการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแบบ Test & go ให้ที่ประชุม ศบค.พิจารณาใหม่ พร้อมกับอธิบายว่า ขณะนี้มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทุกอย่างจะมาจบอยู่ที่ศบค. ซึ่ง กระทรวงสาธารณสุขเป็นได้แค่ผู้เสนอ และหวังว่าข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข ไม่ใช่เป็นเพียงการเสนอให้ดูดี แต่ต้องมั่นใจว่ามีความปลอดภัยเป็นหลัก และมีวิทยาการทางการแพทย์คอยค้ำจุนอยู่ จึงกล้าเสนอ